“เป้ย” เผยถูกแอบอ้างชื่อโทรไปเล่าเรื่องผีในรายการวิทยุ ลั่นรู้ตัวคนทำแล้วแต่ไม่ฟ้องร้อง โบ้ยให้ทางรายการจัดการเคลียร์ แย้ม “เต็ม” พาเจอพ่อแม่แล้ว ชมเปาะน่ารัก แพลนปีหน้าจูงแฟนหนุ่มเจอครอบครัวตนเองเช่นกัน เขินฝ่ายชายหยอดอนาคตให้มาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน
เป็นนักแสดงสาวที่มักเจอเรื่องแปลกๆ ได้ตลอดเวลา สำหรับ “เป้ย ปานวาด เหมมณี” ที่ล่าสุดถูกผู้ฟังทางบ้านแอบอ้างชื่อ ไปใช้เล่าประสบการณ์สยองขวัญในรายการวิทยุ เดอะช็อก ของ “ป๋อง กพล ทองพลับ” อยู่หลายครั้งหลายครา และด้วยน้ำเสียงและลีลาการพูดเหมือนสาวเป้ยมาก แถมยังเล่าเรื่องส่วนตัวทุกเม็ด จนทีมงานและผู้ฟังทางบ้านหลงเชื่อสนิทใจว่าเป็นสาวเป้ยตัวจริง
จนเรื่องราวดังกล่าวรับรู้ไปถึงหูของดาราสาว เนื่องจากมีแฟนคลับมาโพสต์ทวิตเตอร์สอบถาม ทำสาวเป้ยต้องออกโรงชี้แจงว่าไม่ใช่ตัวจริง หวั่นคนที่แอบอ้างเอาชื่อตนไปหลอกคนอื่นทำเรื่องเสียหาย
“คือมีคนโทรไปเล่าเรื่องผี ส่งข้อความไป โทรไปหาทางรายการเป็นเวลา 3 เดือนได้แล้ว โดยเขาใช้ชื่อว่า เป้ย ปานวาด จริงๆ แล้วเวลาที่ทางรายการถามว่าเป็นยังไงบ้างคบกับเต็ม (วุฒิสิทธิ์ สืบสุวรรณ) รู้จักกันได้ยังไงเขาก็เล่าเป็นตุเป็นตะเลยว่า รู้จักกับเต็มได้ยังไง เจอกันวันแรกที่ไหน เมื่อกี้ก็เพิ่งจะไปกินข้าวมา อย่างช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป้ยไม่สบาย เขาก็บอกว่าตอนนี้หายดีแล้ว แล้วเขาก็เล่าเรื่องผีไปเลยว่า เพิ่งไปนอนโรงพยาบาลมาแล้วก็เจอผี ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ตัวเป้ยไม่เคยฟังรายการนี้เลย เพราะเป็นคนกลัวผี”
“ตอนแรกที่รู้ว่ามีคนแอบอ้างชื่องงมาก และค่อนข้างที่จะแปลกใจเพราะมีคนถามเข้ามาเยอะมาก ถามเยอะจนรู้สึกว่ามันคืออะไรกัน ทวิตเตอร์ก็ถล่มทลายมาก พี่เป้ยคืนนี้จะฟังไหม พี่เป้ยทำไมวันนี้ที่เล่าเรื่องผีน่ากลัวมาก มันเกิดที่โรงพยาบาลไหน ห้องไหนเหรอ จนเรามีความรู้สึกว่า โดนผลลัพธ์ที่รู้สึกค่อนข้างที่จะไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องออกมาบอกว่าคนที่โทรไปไม่ใช่เป้ยนะคะ ก็เลยติดต่อไปทางรายการเพื่อให้ทางรายการรู้ด้วยว่าไม่ใช้เป้ย เพราะทางรายการเองก็เชื่อมากๆ ว่าเป็น เป้ย ปานวาด ตัวจริง ก็ได้คุยกับพี่ป๋องแล้วค่ะ พี่ป๋องเองก็ตกใจมาก เขาเองก็ยังบอกเลยว่า ตัวเขาเองก็ยังเชื่อว่าเป็นเป้ยตัวจริง เขาบอกว่าเสียงเหมือนมาก”
ลั่นไม่คิดฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ให้ทางรายการประสานงานเคลียร์ให้
“เป้ยไม่ฟ้องร้องค่ะ เรารู้เบอร์คนที่โทรมาแล้ว ก็ฝากให้ทางพี่ป๋องเป็นคนจัดการ เพราะไม่อยากให้ทางรายการเสียแฟนคลับไป เขาก็ยังสามารถโทรมาเล่าได้ แต่ว่าก็เปลี่ยนชื่อ คือจริงๆ อยากจะบอกว่าไม่ว่าชื่ออะไรก็สามารถโทรไปเล่าได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเป้ย ถ้าเกิดคุณปลื้มเป้ย ตรงนี้เป้ยก็ต้องบอกกับทางรายการไว้ก่อนว่า มันไม่ใช่เป้ยจริงๆ เพราะทางรายการเชื่อมากว่าเป็นเป้ย ถามว่าที่เขาไปแอบอ้างเป้ยเสียหายไหม มันก็ไม่ได้ถึงขั้นเสียหายรุนแรง มันก็ไม่ได้เป็นปัญหามากมาย แต่เป้ยกลัวว่า ถ้าเกิดน้องเขาเอาชื่อเป้ยไปพูดอย่างนี้กับที่อื่นอีก แล้วแฟนคลับเป้ยทุกคนยืนยันว่าเหมือนมาก เป็นสียงที่เหมือนมาก มีคลิปเสียงฟังแล้วก็เหมือนมาก แต่คนสนิทเราจะบอกนะว่าไม่เหมือน”
“เราก็เข้าใจว่าเขาคงกะคำพูดเราว่าเป็นแนวๆ นี้ แล้วก็เอามาพูด เราก็กลัวว่าเขาจะไปพูดแบบนี้กับที่อื่น แล้วเขาเกิดไปด่าใครมันอาจจะทำให้เราเสียหายได้ ฉะนั้นเราก็ต้องยืนยันความเป็นตัวเรา ให้ทางรายการได้รู้ก่อนดีกว่าไหม ทางรายการจะได้รับรู้ว่าไม่ใช่ตัวเป้ยจริงๆ เป้ยเองก็ไม่คิดที่จะตามหาตัวเขา เพราะคิดว่าพี่ป๋องน่าจะเคลียร์แล้ว”
“ก็ไม่ว่าคุณจะเป็นใครชื่ออะไร คุณก็สามารถโทรมาเล่าประสบการณ์ผี แล้วก็ยังเป็นแฟนคลับของรายการนี้ได้อยู่เหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องเป็น เป้ย ปานวาด หรือชื่อดารา ทางรายการเองก็ประหลาดใจแล้วก็แฮปปี้มากที่เป้ยโทรไป พี่ป๋องบอกเลยว่าเขาดีใจมากตอนที่รู้ว่าเป็นเป้ย ตัวเป้ยเองก็ไม่อยากให้ทางรายการเสียใจ แต่เป้ยก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่เป้ยจริงๆ”
“ตอนแรกพี่เต็มจะโทรไปคุยกับคนที่แอบอ้างชื่อให้ค่ะ เพราะเขาไม่รู้ว่าการที่น้องคนนั้นโทรไปแอบอ้างชื่อเรานั้น เพราะว่าเขาแอบชอบเราหรือเปล่า คือน้องเขารู้เรื่องของเราละเอียดมาก รู้แม้กระทั่งเป้ยกับพี่เต็มอะไรยังไง ไปเจอที่บ้านมาแล้ว ก็คิดว่าอาจจะเป็นแฟนคลับของเราด้วยหรือเปล่า คือพี่เต็มเองไม่อยากให้คนที่มาชอบเราต้องเสียความรู้สึก เขาก็เลยอาสาว่าจะโทรไปคุยให้ เป้ยบอกว่าก็ได้เหมือนกัน แต่ขอคุยกับพี่ป๋องก่อนแล้วกันว่า ทางรายการจะจัดการอะไรให้หรือเปล่า ก็เห็นว่าโอเคนะคะ น้องเขาก็น่าจะรู้ตัวแล้วว่าเป้ยทราบแล้ว”
“ก็อยากจะบอกน้องว่าที่ผ่านมาก็ไม่เป็นไร ที่แล้วมาก็ให้มันผ่านไป ยังไงก็ขอให้คุณใช้ชื่อคุณดีกว่า เชื่อมั่นในความเป็นตัวเอง และศรัทธาในความเป็นตัวเอง ให้คุณมีความเชื่อในความเป็นตัวเอง รักตัวเอง บอกชื่อของตัวเองไปเลย เป้ยว่าคนที่เขาฟังคุณอยู่ เขาจะแฮปปี้มากกว่าที่จะใช้ชื่อเป้ย แล้วมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่เป้ยตัวจริง”
แย้ม “เต็ม” จูงพาไปพบครอบครัวแล้ว ส่วนตนก็จะพาแฟนหนุ่มไปรู้จักพ่อแม่เช่นกัน เขินฝ่ายชายคุยเรื่องอนาคต
“ก็ไปเจอมาแล้วค่ะ ทุกอย่างก็โอเค ครอบครัวพี่เต็มน่ารักอยู่แล้ว คุณแม่พี่เต็มน่ารักมาก แต่ก็ไม่ถึงขนาดสนิทอะไรมากมาย เจอกันก็ไหว้ทักทาย เดี๋ยวปีหน้าพี่เต็มก็คงจะได้เจอกับครอบครัวเป้ย ยังไม่รู้ว่ายังไงแต่คิดว่าคุณแม่น่าจะมากรุงเทพฯ ยังไม่ได้บอกเขาเลย แต่ก็ว่าจะพาไปเจอครอบครัวเราบ้าง เพราะเขาเองก็พาเราไปเจอครอบครัวเขามาแล้ว”
“เป้ยเองก็เล่าเรื่องพี่เต็มให้คุณแม่ฟังบ่อยๆ แล้วเขาก็ชอบมาก เพราะจริงๆ คุณแม่ปรารถนาที่จะให้เป้ยคบกับคนที่มีอายุมากกว่าอยู่แล้ว เขาอยากให้เป้ยได้คนที่ดูแลเป้ยที่เป็นผู้ใหญ่ แล้วพี่เต็มก็เป็นอย่างนั้น เราเองก็มีการคุยเรื่องอนาคตบ้างแล้วนิดๆ หน่อยๆ คุยแซวกันไม่มีอะไรมากมาย เขาแซวเป้ยอย่างเรื่องคอนโด คือเป้ยกำลังหาซื้อบ้าน แล้วเขาก็คุยเหมือนว่าไม่อยากให้เป้ยซื้อบ้าน เพราะเขาเพิ่งโดนขโมยขึ้นบ้านไป เขาก็บอกว่าอยู่คอนโดก่อนแล้วกัน ส่วนบ้านค่อยมาอยู่กับเขา(หัวเราะ) แต่ก็แค่พูดเล่นๆ กันค่ะ ไม่มีอะไร แต่เราก็เขินนะ แอบคิดจริง”
ที่มา: manager.co.th