Author Topic: "2010" กล้องดิจิตอลครองเมือง  (Read 1652 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      ผลจากการพัฒนาเทคโนโลยี และการแข่งขันด้านราคา ทำให้กล้องดิจิตอลมีราคาถูกลงอย่างน่าใจหาย จนทำให้ ปี 2553 เป็นปีที่ตลาดกล้องดิจิตอลในเมืองไทยมีการเติบโตสูงเป็นประวัติการณ์โดยมีมูลค่าตลาดรวมในประเทศอยู่ที่ 750,000 เครื่อง และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.5 ล้านเครื่องในปี 2558
       
       นายวรินทร์ ตันติพงษ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อิมฟอร์เมชัน บริษัท แคนนอน ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลในเมืองไทย กล่าวว่า ช่วงปีที่ผ่านมาแคนนอนมียอดขายกล้องดิจิตอลเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ย.มีส่วนแบ่งการตลาดด้านมูลค่าสูงสุดอันดับ 1 คือ 33.4%
       
       "ในปี 53 ยังไม่รวมเดือน ธ.ค. ตลาดกล้อง DSLR (เปลี่ยนเลนส์ได้) มีการเติบโตราว 9% เมื่อเทียบกับปี 52 เราเชื่อว่าในเดือนสุดท้ายของปีตลาดกล้องอาจถีบตัวสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวที่ผู้ใช้งานกำลังมองหากล้องตัวใหม่ๆ"
       
       ปัจจัยที่ทำให้ตลาดกล้องดิจิตอลในไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นเรื่องของการเข้ามามีบทบาทของกล้องตระกูลมิรเรอร์เลส (Mirrorless) ที่เข้ามาในตลาดตั้งแต่ปลายปี 52 โดยหัวเรือใหญ่คือโอลิมปัส ตอกย้ำด้วยโซนี่ประกาศเปิดตัวกล้องตระกูล NEX ที่มาพร้อมเลนส์ E-Mount และความสามารถในการใช้งานร่วมกับเลนส์ของกล้อง DSRL ของโซนี่ มินอลต้า ได้
       
       นายเชิดพงษ์ ตันติพูนธรรม แม่ทัพใหญ่ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท โซนี่ ไทย กล่าวถึงภาพรวมของกล้องดิจิตอลโซนี ว่าในปีนี่มีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ เหตุผลหลักเป็นเพราะกระแสตอบรับของกล้องตระกูลมิลเรอเลส (Mirrorless) NEX Series ที่ช่วยผลักดันให้ตลาดกล้องดีเอสแอลอาร์ของโซนีโตขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 52 จากเดิมที่มีส่วนแบ่งอยู่เพียง 5-6% ขึ้นเป็น 17%
       
       โดยในช่วง 2 เดือนแรกนับตั้งแต่มีการเปิดตัวกล้องดิจิตอลตระกูล NEX ในประเทศไทย โซนี่มียอดขายรวมกว่า 2,000 เครื่อง จนปัจจุบันที่คาดว่าจะขายได้ถึง 7,000 เครื่อง และมีโอกาสสูงถึง 10,000 เมื่อจบปี 53 ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตลาดยังมีความต้องการกล้องดิจิตอลตระกูลนี้อยู่ ผู้ใช้ที่ต้องการซื้อ NEX จะต้องทำการสั่งจองที่หน้าร้าน เนื่องจากบริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดได้
       
       "น่าเสียดายที่เราไม่สามารถกระจายสินค้าให้แก่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายในประเทศ ตามที่ลูกค้าต้องการได้ เนื่องจากสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตกล้องตระกูลนี้ เลยทำให้ต้องกระจายสินค้าไปยังต่างประเทศให้ด้วย ซึ่งทำให้ยอดขายในประเทศไทยต้องสะดุดลง"
       
       ด้านน้องใหม่อย่างซัมซุงที่ถึงแม้จะยังไม่โดดเด่นในวงการนักเล่นกล้องเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าผลของการทำตลาด ที่ซัมซุงทุ่มงบมหาศาลนั้นประสบความสำเร็จเกินคาดโดยในปี 53 ซัมซุงมียอดจำหน่ายกล้องดิจิตอลมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท
       
       จุดนี้ นายเมธี อัครมหาพาณิชย์ หัวหน้าผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิกส์ ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะยอดขายกล้องดิจิตอลคอมแพกต์ตระกูล 2View เป็นเส้นเลือดใหญ่ในตลาดกล้องซัมซุง โดยตั้งแต่ปลายปี 52 ถึงปัจจุบันซัมซุงมียอดขายกล้องตระกูล 2View สูงถึง 80,000 เครื่องในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะถึง 100,000 เครื่องในสิ้นปี หรือคิดเป็น 35% ของยอดขายกล้องดิจิตอลซัมซุงทั้งหมด
       
       นอกจากนี้ยังมีในส่วนของกล้องตระกูลมิลเรอเลสอย่าง NX10 ยังมีส่วนช่วยผลักดันให้ตลาดกล้องมิลเรอร์เลสของซัมซุงมีส่วนแบ่งการตลาดสูงขึ้น จนทำให้ซัมซุงได้มีการพัฒนากล้อง NX100 ออกมาสู่ตลาดเพื่อเป็นการต่อยอดความต้องการกล้องตระกูลมิลเรอร์เลส
       
       ** อุปกรณ์เสริมโตตาม **
       
       การเติบโตของบริษัทผู้ผลิตกล้องดิจิตอลชั้นนำในเมืองไทยส่งผลให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และบริษัทนำเข้าอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพมีการเติบโตที่สูงตามไปด้วย
       
       นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ซีอีโอบริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายกล้องดิจิตอลกล่าวว่า ยอดการซื้อขายกล้องดิจิตอลของบริษัทถ้าคิดเป็นยูนิตมีการเติบโตสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 50%
       
       "ปัจจุบันโฟโต้ฮัท มีร้านค้าตัวแทนจำหน่าย 200 สาขาทั่วประเทศไทย และมีแผนจะขยายเพิ่มอีก 6 สาขาในปี 54 มียอดจำหน่ายกล้องดิจิตอล และอุปกรณ์เสริมรวมกว่า 1,650 ล้านบาท"
       
       นายกิตติ์ธเนศ อัศวธนะสิริกุล ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แอดวานซ์โฟโต้ ซีสเทมส์ จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์เสริมสำหรับกล้องถ่ายภาพชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่าภาพรวมของตลาดกล้อง DSLR ในเมืองไทย คาดว่าจะมีการเติบโตสูง วัดได้ยอดขายฟิลเตอร์สำหรับกล้องถ่ายภาพที่บริษัทขายได้ มีอัตราการเติบโตสูงถึง 50-60% ในส่วนของกระเป๋ากล้องดิจิตอลมีการเติบโตขึ้น 30% โดยในปี 53 บริษัทมีรายได้รวมจากการจำหน่ายรวมกว่า 55 ล้านบาท
       
       "ปีนี้ภาพรวมของบริษัทมีการเติบโตสูงขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 52 จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 20-25% แต่ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองและน้ำท่วม จึงทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย โชคดีว่าตลาดอุปกรณ์เสริมกล้องถ่ายภาพนั้นสามารถเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้าที่เรานำเข้าเป็นสินค้าที่ลูกค้าสามารถซื้อเปลี่ยน และมีไว้ครอบครองได้หลายชิ้น ยกตัวอย่างเช่นลูกค้าซื้อกล้องดิจิตอล 1 ตัว แต่สามารถซื้อฟิลเลอร์ ขาตั้งกล้อง หรือกระเป๋ากล้องสลับใช้ไปมาได้หลายชิ้น นั่นแสดงให้เห็นว่าตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพมีการเติบโตควบคู่ไปกับตลาดกล้องถ่ายภาพ และมีโอกาสจะเพิ่มสูงกว่า"
       
       ล่าสุดบริษัทได้มีการเปิดตัวกระเป๋ากล้องดิจิตอลแบรนด์ Manfrotto และ National Geographic เป็นครั้งแรกในอาเซียน หลังจากที่มีการเปิดตัวที่งานโฟโต้กิน่า ประเทศเยอรมนี เมื่อปลายเดือนกันยายน โดยในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิตขาตั้งกล้อง Manfrotto เริ่มทำตลาดในกลุ่มกระเป๋ากล้อง ซึ่งเน้นการดีไซน์แบบอิตาลีเป็นหลักออกมาจำหน่ายในท้องตลาด


นายกิตติ์ธเนศ อัศวธนะสิริกุล ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แอดวานซ์โฟโต้ ซีสเทมส์ จำกัด เปิดตัวกระเป๋ากล้องดิจิตอลแบรนด์ Manfrotto และ National Geographic เป็นครั้งแรกในอาเซียน หลังจากที่มีการเปิดตัวที่งานโฟโต้กิน่า ประเทศเยอรมนี

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2588 Views
Last post April 24, 2010, 06:04:33 PM
by Nick
0 Replies
2394 Views
Last post October 23, 2010, 01:15:13 PM
by Nick
0 Replies
1805 Views
Last post October 28, 2010, 04:47:34 PM
by Nick
0 Replies
2704 Views
Last post November 18, 2010, 09:58:26 PM
by Nick
0 Replies
1654 Views
Last post December 14, 2010, 02:58:47 PM
by Nick
0 Replies
1587 Views
Last post December 16, 2010, 01:57:59 AM
by Nick
0 Replies
1566 Views
Last post December 16, 2010, 07:35:21 PM
by Nick
0 Replies
1730 Views
Last post December 16, 2010, 07:41:47 PM
by Nick
0 Replies
1677 Views
Last post December 16, 2010, 07:42:48 PM
by Nick
0 Replies
1569 Views
Last post January 17, 2011, 02:27:15 PM
by Nick