Author Topic: แฉ “นาธาน” ครบสูตรนรก ด่าคนแก่ เ - ี้ย หลอกเงินเด็ก หิ้วเด็กวัด หลอกเงินพระ  (Read 1056 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


"ต้อม" กับ "น้ามด" สองแม่ลูก เปิดอกถึง "นาธาน"

แฉ “นาธาน” ครบสูตรนรกแตก นอกจากจะหลอกเงินญาติ “ครูแหม่ม” 7 แสนแล้ว ก็ยังมีนิสัยก้าวร้าว ด่า “พ่อกับแม่ครูแหม่ม” ผู้ให้ที่พักพิงว่า เ - ี้ย พูดอะไรก็ไม่ฟัง บอกมีเงินแล้วค่อยมาพูดกัน สุดอนาถขอแม้กระทั่งเงินเด็ก 20 บาทก็ยังเอา ล่าสุด ไปบอกพระว่าจะสร้างเครื่องกระจายเสียงเรียกเก็บเงิน 4 หมื่น ซ้ำมีพฤติกรรมสนิทสนมกับเด็กวัด ถึงขั้นพาไปนอนที่บ้าน
       
       เปิดมหากาพย์นรกไม่เอาอีกรอบแล้วสำหรับ “นาธาน โอร์มาน” อดีตนักร้องผู้อื้อฉาวที่มีข่าวเน่าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โกงหุ้นส่วนร้านกาแฟ โกงเงินพี่เลี้ยงที่อยู่ร่วมกันมานานนับ 10 ปีอย่าง “แม่บ้านสมาน สุขเสริม” ล่าสุด ก็ถึงคิว “ครูแหม่ม พิสมัย ศรีกระบุตร” แม่บุญธรรมที่เคยรักนาธานนักหนา ถึงกับหอบหิ้วนาธานไปอยู่ที่เชียงคานบ้านเกิด หวังจะให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังจากรอดคุกกรณีโกงเงินแม่บ้านมาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
       
       แต่ล่าสุด นาธานก็ไปก่อเรื่องอีกจนได้ คราวนี้ครอบครัวของครูแหม่มผู้มีพระคุณโดนกันถ้วนหน้า จนต้องขึ้นโรงพักไปแจ้งความฉ้อโกงที่ สภ.เชียงคาน เมื่อวันก่อน เรื่องนี้เป็นเหตุให้เอเอสทีวีบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ ต้องลงพื้นที่เพื่อตามล่าหาความจริงที่เกี่ยวข้องกับนาธานอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ครูแหม่มที่เคยวิ่งหนีนักข่าว เอาผ้าคลุมหน้าบังกล้อง ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม เชื้อเชิญเข้าไปพูดคุยในบ้าน ทำให้ทีมข่าวได้พูดคุยกับครอบครัวของครูแหม่มอย่างหมดเปลือก
       
       ไม่ว่าจะเป็น “น้ามด สิทธิพร โคตรอุดมพร” หนึ่งในเหยื่อของนาธานที่โดนเชิดเงินไปถึง 7 แสน และ “ต้อม” ลูกชายคนโตที่ต่อต้านนาธานมาโดยตลอด รวมไปถึงลูกชายอีก 2 คนของน้ามดที่น้ามดบอกว่า ทำหน้าที่เป็นเสนาน้อยคอยรับใช้นาธานอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี “น้าต่าย” ญาติของครูแหม่ม ช่างเสริมสวยที่นาธานไปใช้บริการทำสวยอยู่เป็นประจำก็มาร่วมด้วยช่วยแฉว่าโดนยืมเงินไปเหมือนกัน เรียกว่าโดนกันแล้วถ้วนหน้า ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เราได้รู้ว่า ผู้ชายที่ชื่อ นาธาน โอร์มาน ครบสูตรนรกแตกจริงๆ
       
       ครูแหม่ม :“ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เกิดขึ้น เพราะเรารักเขาเมตตาเขาเหมือนแม่ที่คลอดออกมา ไม่คิดว่าเขาจะทำกับเราแบบนี้หรอก คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดกับคนอื่นคงไม่ได้เกิดกับเรา ตอนนั้นกระแสสังคมแรงมากแต่เราก็ไม่ฟัง เนื่องจากรักเขารักเหมือนลูกเหมือนหลาน รักเหมือนคลอดเขาออกมาเลย ความผูกพันมันเอื้อกันมา เมื่อก่อนเขาไม่มีบ้านอยู่ แต่เรามีลูกศิษย์เยอะ แล้วลูกศิษย์คนหนึ่งที่เป็นเจ้านายเก่าพี่เต็ม (แม่บ้านสมาน สุขเสริม) พอเจ้านายเก่าเลิกจ้างพี่เต็มเราก็ให้นาธานไปอยู่กับพี่เต็ม ก็เรียกว่าดูแลเขามา10 กว่าปีแล้ว”
       
       “ดูแลตั้งแต่เขายังไม่ได้เป็นนักร้องให้กำลังใจเขาสู้ๆ นะ กินอยู่ยังไงไม่มีเงิน 100-200 เราก็ให้เขาเพราะเราก็ไม่ได้มั่งมีอะไร เวลาเขาขอเงินมาก็ให้เป็นหลักร้อยหลักพันก็มี โทรศัพท์มือถือไม่มีก็ซื้อให้ เหมือนเราเป็นแม่ของเขาจริงๆ เลยมันซึมซับผูกพันกันมาเรื่อยๆ พอเขาได้เป็นนักร้องเขาก็ห่างๆ ไปบ้างเพราะเขามีงาน แต่เวลาที่เขามีปัญหาเดือดร้อนไม่มีเงินเขาก็โทรมา แต่ถึงเขาจะเป็นนักร้องเขาก็ไม่ได้เอื้ออะไรเรานะ มีแต่เรานี่แหละให้เขา คนอย่างนาธานไม่มีทางเอื้อใคร เราก็เพิ่งมารู้ตอนนี้นี่แหละ”
       
       “พอนึกถึงวันนี้ที่เราจะต้องไปนั่งอยู่ในโรงพักกับเมื่อปีก่อนที่เราก็มานั่งอยู่ตรงนี้เหมือนกัน แต่มันมากันคนละสถานะเลยนะ ในวันนั้นเรามาในฐานะแม่จริงๆ ลูกเราเดือดร้อนปกป้องลูกทุกอย่าง วันนั้นที่เขาโดนจับเขาก็นั่งอยู่ในบ้าน น้ามดก็กำลังทำก๋วยเตี๋ยวให้กิน”
       
       น้ามด : "ก่อนที่จะโดนจับก็มีตำรวจมาถามว่ามีดารามาอยู่ที่บ้านหรือเปล่า ได้อำนวยความสะดวกให้เขาไหม เราก็บอกมีนาธาน แต่เขาเป็นหลานผัวตอนนี้ไปเมืองเลย พอตอนเช้าเขาก็มาตะครุบเอาที่นี่ กำลังจะทำก๋วยเตี๋ยวให้เขาทานพอดี เขาชอบทานก๋วยเตี๋ยว”
       
       ครูแหม่ม: “เขายังไม่ทันจะกินเลย กำลังเอาใส่ปากมันน่าสงสารนะ เมื่อก่อนนี่น้ามดเขาเชื่อข่าวนะ แต่พอมาเห็นตัวจริงนาธานน้ามดเปลี่ยนเลย มาเจอคำหวานๆ เปลี่ยนเลยรักเหมือนลูก วันที่โดนจับน้ามดก็เอาเงินยัดใส่มือเรา 8,000 เอาไปช่วยหลานนะลูก แกเสียใจที่นาธานมาโดนจับที่บ้าน เสียใจมากรู้สึกว่าตัวเองผิด เราเองก็สงสารเขารู้สึกผิดเขามาโดนจับที่บ้านเรา เราจะต้องช่วยเหลือเขา”
       
       “แต่พอปีนี้เราก็มานั่งในตำแหน่งเดิมอีก แต่มันเป็นคนละหน้าที่ คิดแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านาธานมาทำอย่างนี้กับผู้มีพระคุณได้ยังไง เมื่อเช้าก่อนจะไปโรงพักหมาของน้ามดเนี่ยก็มาสะกิดขา มายกมือไหว้มาเกาะมือน้ามด เหมือนเขาจะให้กำลังใจ เราก็ยังพูดกันอยู่เลยว่า เลี้ยงหมาก็ยังดีกว่าเลี้ยงนาธานเนอะ มาถึงวันนี้บอกได้เลยว่าเสียใจมาก ชีวิตเราตกต่ำสุดๆ เราเป็นครูบาอาจารย์มีลูกศิษย์เยอะ วันนั้นเราเอาเกียรติของความเป็นครูการันตีเขาหมด แต่วันนี้เขากลับมาทำอย่างนี้กับเรา แทนที่เราจะไปการันตีให้พ่อแม่พี่น้องที่คลอดเรามา เงินที่เราให้พ่อแม่ก็ยังไม่ได้ให้เท่านาธาน โอร์มานนะ”
       
       “พี่น้องของเราที่อยู่ที่นี่ก็เสียใจหมดก็คนบ้านนอกน่ะ รักและดูแลเขาอย่างดี น้ามดให้นาธานกินอยู่ตั้งแต่เช้ายันนอน ขนาดโกรกผมยังต้องมาเอาเงินกับน้ามดเลย น้ามดขายของอยู่นาธานโทรบอกน้ามดเติมน้ำมันรถ น้ามดก็ต้องวิ่งเอาเงินมาให้ กลายเป็นแม่บุญธรรมโดยที่ไม่ต้องมีคนแต่งตั้ง เขารู้ว่าน้ามดใจดีมีเงินเข้าออก ถึงจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็มีรายได้ทุกวัน”
       
       น้ามด : “บางทีก็เห็นเขานั่งซึมๆ เราก็ไปถามไม่มีเงินเหรอลูก เราก็เอาเงินใส่มือทีละ 1,000 - 2,000 บาท ขายของมาได้ก็เอาเงินมาให้เขาใช้จ่าย”
       
       ครูแหม่ม : “แล้วดูสิทำไมมาทำแบบนี้ เรานึกว่าเขาจะเป็นคนดี นึกว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเองได้ ตกทุกข์ได้ยากมาอยู่บ้านเรา พ่อแม่พี่น้องเราก็ไม่เคยรังเกียจ มีแต่ให้กำลังใจเอาใหม่นะสู้ๆ นะ คิดว่าเขาคงไม่มีอะไร คงไม่ทำอะไรเรา เพราะเขาก็ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่กับพ่อแม่เราแล้ว และเขาก็เรียกพ่อแม่เราว่าตากับยาย ก็คิดว่าเขาจะมาตั้งรกตั้งฐานที่นี่ พ่อกับแม่รักเขามาก เขาขอที่มาทำรีสอร์ทพ่อกับแม่ก็ให้ แต่ก็ยังมาหลอกพ่อกับแม่ให้ขายวัวไปทำทัวร์อีก 5 หมื่น”
       
       “พอเขามาอยู่ที่นี่ในระหว่างที่เราไม่อยู่ เขาก็มาสร้างความหวังให้กับน้ามด เขาบอกจะพาน้ามดไปทัวร์ต่างประเทศ 20 ประเทศ น้ามดซ้อมสะพายกระเป๋าคล้องแขนไว้ให้ดี แตะไม่ต้องใส่ ต้องใส่รองเท้าส้นสูง ซ้อมดีๆ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวเมืองนอก จะพาไปสวิสเซอร์แลนด์”
       
       “เขาพูดทั้งๆ ที่อยู่ที่นี่เขาไม่ได้ทำงานอะไร มีแต่ญาติๆ ของเรานี่แหละจุนเจือเขา แม่เราก็ทำกับข้าวให้เขากิน แต่ส่วนใหญ่เขาจะมากินกับน้ามด เช้ายันค่ำมากินกับน้ามด ไม่มีเงินก็ขอน้ามดอยู่จนเหมือนลูกคนหนึ่งของน้ามด นอกจากนั้นแล้วเขาก็มีผู้ใหญ่คนหนึ่งคอยซัพพอร์ทให้เขา ขอไม่เอ่ยถึงละกันว่าชื่ออะไร แต่ผู้ใหญ่ใจดีของเขาคนนี้ก็เป็นคนเอาเงินมาลงทำรีสอร์ทที่นี่”
       
       “และในระหว่างที่เขาอยู่บ้าน เราก็อยากจะสร้างบ้านให้พ่อให้แม่ ก็ให้นาธานมาเป็นคนดูแลให้ เราก็ไปกู้เงินมาได้ 9 แสนแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด ตากับยายก็จะไปเอากับธนาคารมาให้ นาธานเขาก็ขอเป็นคนดูแลเอง บิลต่างๆ เขาก็เก็บไว้เอง เขาบอกว่าเดี๋ยวจะเอาไปให้ครูแหม่มดู เราเองตอนนั้นก็อยากสร้างเครดิตให้เขา อยากให้ญาติพี่น้องรักเขา อยากให้รู้ว่าเขามีเงินนะ บางคนก็เข้าใจว่าเขาเป็นคนช่วยเราด้วยซ้ำ ยาย(แม่ของครูแหม่ม) ก็อยากสร้างเครดิตให้หลาน(นาธาน) ก็เลยเอาเงินยัดใส่มือให้ คือทุกคนรักเขาหมดไว้ใจเขาหมด”
       
       “แต่เงินก็ไม่พอหรอก เราก็เอาที่ตรงไร่มะม่วงไปจำนอง เพราะนาธานบอกว่าอยากให้ยายเอาที่ไปจำนองนะ 4 แสนบาทจะได้สร้างบ้านให้เสร็จ ก็เอาไปจำนองใช้จ่ายไป 3 แสนเหลือ 1 แสนเขาก็เป็นคนเก็บไว้ แปลนบ้านเราก็มีก็ให้ แต่พอกลับมาบ้านเรากลับกลายเป็นอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนในแปลนเลย เขาคงคิดว่าจะอยู่ด้วยก็เลยสร้างตามใจตัวเอง”
       
       สุดก้าวร้าว ด่า “พ่อแม่ครูแหม่ม” ที่รักเหมือนลูกว่า เ - ี้ ย
       “พ่อแม่เห็นบ้านแล้วก็โกรธมาก เพราะเขาอยากได้ตามแปลน อยากได้ 3 ห้องนอน นาธานมาสร้างเป็นแบบนี้เลยตะคอกใส่ คือพ่อเขามีแปลนบ้าน 3 ห้อง แล้วนาธานมาเปลี่ยนเป็น 6 ห้อง เขาก็เลยเถียงกัน ทะเลาะกันแล้วเขาก็บอกว่า ค่าใช้จ่ายที่เกินไปเขาจะออกเอง แต่จริงๆ เราก็เป็นคนออกนั่นแหละ พอสร้างบ้านเสร็จเขาก็เอาตุ๊กตาผู้หญิงใส่อันเดอร์แวร์ไปวางไว้ตรงประตูทางเข้า ตาก็เลยห้ามเพราะเวลาเดินเข้าเดินออกผู้ชายบางคนเขาถือ ก็เลยทะเลาะกันด่าเ - ี้ ยด่าสัตว์ต่อหน้าต่อตาพ่อแม่เราเลย เราก็รู้สึกว่า โห...ด่าพ่อด่าแม่เราเลยเหรอ”
       
       “และเขาก็โทรมาบอกว่าป๋าจะเอามีดแทงเขา แล้วโดนนิ้ว นิ้วหลุด แต่คนที่เห็นบอกว่าเป็นรอยนิดเดียว ผู้ใหญ่เราไปขอดูนิ้วเขาก็ไม่ให้ดู แต่ก็ไม่หลุดหรอกยังอยู่เหมือนเดิม แหม่มก็ถามป๋านะว่าไปทำแบบนั้นทำไมมันผิดกฎหมาย พ่อก็บอกว่าแกไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้จะทำร้าย เหมือนแกโมโหหยิบอะไรได้ก็หยิบ แต่ไม่ได้จะทำร้ายหรอก เหมือนเอามาขู่”
       
       “เขาไม่น่าทำแบบนี้เลย ตกทุกข์ได้ยากมาถ้าไม่มีตากับยาย ถ้าตากับยายไม่อนุญาตก็ไม่ได้นะ เพราะมันเป็นที่ของเขา ตากับยายรักเขาจะตายซื้อกับข้าวหาข้าวให้กินตลอด แล้วเขายังเอาไปพูดกับญาติเราคนอื่นอีกว่า ตาไม่เหมือนสมัยเมื่อก่อนแล้วนะ คือเมื่อก่อนพ่อมีรถลากซุง ลากไม้ซุงตามโรงเลื่อย เป็นธุรกิจที่พ่อทำที่ลาว เขาก็บอกว่าตอนนี้ป๋าไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วนะ ป๋ามีเงินเหรอ ไม่ต้องมาพูดเลย ถ้าป๋ามีเงินค่อยมาพูดด้วย ถ้ามีเงินแล้วจะคลานไปกราบ ถ้าไม่มีเงินไม่ต้องมาคุย”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)