Author Topic: “นาธาน” แฉกลับ “ครูแหม่ม”หลอกลงทุนสร้างรีสอร์ทจนหมดตัว ด้านแม่บุญธรรมลั่นเอาอาชญากรแผ่น  (Read 857 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ครูแหม่ม” ควง “น้ามด” ประกาศจะเอา “นาธาน” เข้าคุกให้ได้ บอกเป็นอาชญากรแผ่นดิน ปล่อยไว้เป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม ยอมรับผิดที่เคยตาบอดเข้าข้างจอมลวงโลก เพิ่งตาสว่างหลังครอบครัวตัวเองโดนโกงจนหมดเนื้อหมดตัว เชื่อเป็นโรคจิต เป็นอมนุษย์ควบอสรพิษ หลอกได้แม้กระทั่งผู้มีพระคุณ วอนพ่อแม่ที่แท้จริงของจอมลวงโลกมาเอาลูกชายกลับไป ด้าน “นาธาน” เผยอยู่กรุงเทพฯ แฉกลับถูกแม่บุญธรรมหลอกลงทุนสร้างรีสอร์ทจนหมดตัว
       

โชว์หลักฐานที่นาธานมาหลอกให้ไปเป็นผู้ค้ำประกันซื้อรถ
       
       หลังจากที่ตาสว่างและยอมมาเปิดเผยเรื่องราวที่โดนจอมลวงโลก “นาธาน โอร์มาน” หลอกเข้ากับตัวเอง ทำให้ตอนนี้ทั้งแม่บุญธรรมอย่าง “ครูแหม่ม พิสมัย ศรีกระบุตร” ที่เคยรักจอมลวงโลกชนิดที่ยอมโดนกระแสสังคมด่าทุกอย่าง รวมไปถึง “น้ามด สิทธิพร โคตรอุดมพร” ญาติของครูแหม่มที่รักและหลงเชื่อจนโดนหลอกเอาเงินไป 7 แสนกว่าบาท ทำให้ตอนนี้ไม่เหลือทรัพย์สินใดๆ เป็นของตัวเอง มีแต่หนี้สินท่วมหัว เพราะบ้านก็เอาไปจำนองหมดแล้ว ตอนนี้พอตาสว่างจึงยอมออกมาเปิดโปง “นาธาน” ทุกอย่าง โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้(30 พ.ย.) “ครูแหม่ม” และ “น้ามด” พร้อม “ต้อม” ลูกชายคนโต ได้มาออกรายการ “บอกเก้าเล่าสิบ” ของ 2 พิธีกร “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” และ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ที่สตูดิโอโมเดิร์นไนน์ พร้อมเล่าถึงความอัดอั้นตันใจทั้งหมดทั้งน้ำตา
       
       ซึ่งภายหลังถ่ายรายการเสร็จทั้งหมดได้ให้สัมภาษณ์กับบรรดาสื่อมวลชน ตั้งแต่เรื่องที่ว่า “พ่อแม่ของครูแหม่ม” โดนหลอกให้ขายวัว-ควายบอกว่าเอาเงินไปทำทัวร์ รวมถึง “น้ามด” ที่ถูกหลอกเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด เพราะ “ความรัก” และ “ความโลภ” บังตาจริงๆ
       
       น้ามด : “วัวควายของพ่อแม่ก็อุตส่าห์ขายเอาเงินให้เขาไป เขาก็ยังมาหลอกเราอีกว่า เอาเงินมาลงทุนทำทัวร์ดีกว่าไปยืนขายขนมอีก เราก็อุตส่าห์ไปกู้ยืมเงินมาให้เขา มีอะไรทุกอย่างก็ให้เขาไปหมด เอาทีละ 2 หมื่น 3 หมื่น 5 หมื่นแล้วแต่เขาจะเรียกเอา เราก็ต้องหามาให้เขา รวมเบ็ดเสร็จก็ 7 แสนกว่าบาท มารู้ตัวว่าถูกหลอกแน่แล้วก็วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา แหม่มมาที่บ้าน”
       
       ครูแหม่ม : “คือเขาโทรมา ตอนนั้นมันบ่าย 3 โมงกว่า แต่สาเหตุที่โทรมาก็คือเราโทรไปหาพี่ชิ อนุชา แล้วก็ปรึกษาพี่เปี๊ยกโมเดลว่าจะทำยังไงโดนหลอกแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าพอข่าวเริ่มลงไป เขาก็โทรมาทันที มาขอเลขที่บัญชีน้ามด น้ามดตอนนั้นขายของอยู่ก็ทิ้งเลย กลับมาบ้านมาเอาเลขที่บัญชี เขาบอกว่าเขาจะโอนให้ 2 แสน”
       
       น้ามด : “แต่ก็ไม่โอน ให้ลูกไปตรวจสอบแล้วไม่มีสักบาท”
       
       ครูแหม่ม : “แล้วน้ามดก็บอกว่ามันต้องมีอะไร เขาก็วิ่งมาหาครูแหม่มบอกว่า นาธานพูดว่า น้ามดรู้ไหม แม่น่ะ(ครูแหม่ม) แสบมากเลยนะที่ไปให้ข่าว รู้ไหมแสบมากๆ แต่เงินของน้ามดเขาบอกว่า เขากำลังจะให้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ”
       
       น้ามด : “เขาบอกจะให้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ จะโอนให้ 2 แสนก่อนวันนี้ (25 ต.ค.) ตอนนั้นก็หวังว่าจะได้คืนนะ เราก็รีบวิ่งมาเอาเลขที่บัญชีให้เขา แต่พอเย็นๆ ไปตรวจสอบก็ไม่มี เราก็หวังว่าจะเอาไปไถ่บ้าน”
       
       ครูแหม่ม : “น้ามดก็เลยบอกว่าเกิน 6 โมงเย็นถ้าไม่ให้แม่(ครูแหม่ม) จะไปแจ้งความแล้วนะ เขาก็พูดว่ามันเสียทั้งสองฝ่าย แล้วก็ให้ผู้มีพระคุณท่านนึงโทรมาอีกว่า อย่าไปแจ้งความเลย สงสารเขา อย่าทำน้องเขาเลย แล้วน้องอีกคนนึงของครูแหม่มก็แทรกมาว่า งานต้มตุ๋นเหรอมันถึงจะหาได้เร็วขนาดนั้น 2 แสนจะหามาจากไหน แต่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวผู้มีพระคุณจะโอนให้ แล้วน้ามดก็บอกว่า 2 แสนไม่พอนะ จริงๆ ต้องโอนสัก 2 แสน 4 หมื่น เพราะมันเป็นจำนวนค่าบ้าน ครูแหม่มก็เลยบอกว่า 2 แสนก็เอาขอให้มันมาจริงเถอะ แต่พอเขาได้ยิน 2 แสน 4 หมื่น เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะบวกให้ เขาก็บวกให้เดี๋ยวนั้น คือพูดไปตามอารมณ์น่ะ”
       
       น้ามด : “พอ 6 โมงเย็นให้ต้อมไปตรวจสอบดูก็ไม่มี เพราะเขาออกจากบ้านไปตอนกลางเดือนตุลาคม ที่ออกจากบ้านก็เพราะทะเลาะกับคุณตาพ่อของครูแหม่ม”
       
       เผยสาเหตุที่ต้องออกจากบ้าน “ครูแหม่ม” เพราะ “นาธาน” โกรธที่พ่อครูแหม่มเอาตุ๊กตาผู้หญิงนุ่งอันเดอร์แวร์ออกจากหน้าประตู เลยด่าว่า เ - ี้ ย
       
       ครูแหม่ม : “คือเขาจะไม่ชอบคุณตาคุณยาย เพราะคนแก่บ้านนอกก็จะชอบสอน แต่เขาก็จะด่าไอ้เ - ี้ ย ไอ้สัตว์ ตามหลังเลยนะ ครูแหม่มไม่ได้ยินหรอก แต่คนที่คอยดูแลเล่าให้ฟัง แล้วบ้านหลังใหม่เขาก็เอาตุ๊กตาผู้หญิงใส่อันเดอร์แวร์วางไว้ข้างบน แล้วคนแก่เขาก็ถือไง ตาเขาก็อยากทำบุญบ้าน ถ้าพระมาเห็นก็คงไม่ดี ก็เลยเอาออก คือตาก็โมโหนะเพราะมันเป็นบ้านของเรา แต่เหมือนกลายเป็นบ้านเขาไปเลย ตาก็เลยเอาตุ๊กตาออก นาธานก็โกรธทะเลาะกัน ตาก็เอามีดจะแทง แต่ว่าไม่ได้แทงหรอก นาธานก็ไม่กล้าต่อสู้อะไร เขาก็โทรหาครูแหม่มบอก ตาทำไมทำอะไรเ - ี้ ยๆ แบบนี้ เราก็ถามว่าทำอะไร เขาก็บอกว่าบอกดีๆ ก็ได้ แต่ทำไมทำเ - ี้ ยแบบนี้ พูดว่าสัตว์เลยอะไรประมาณนี้”
       
       “เขาด่าพ่อด่าแม่เรา เราก็ทนไม่ได้ สุดๆ ของชีวิตเลย เพราะพ่อแม่นี่คือพระองค์แรก(ร้องไห้) ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่ามันแปลกๆ แล้วนะ เพราะเริ่มรู้เรื่องหลอกทัวร์ รู้จากยายว่าเขาจะให้ยาย 1 ประเทศ น้ามด 20 ประเทศ แต่น้ามดจะได้เงินก่อน ก็โทรไปหาน้องต้อมให้ไปสืบดูสิว่าจริงไหม พอรู้เราก็ตกใจ เพราะยายเผลอพูดออกมา เราก็เลยบอกว่าต้อมเห็นแม่(น้ามด) บอกว่ากำลังจะเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง มันไม่เหลืออะไรแล้วนะ ช่วยปกป้องหน่อยไม่ให้เอาไป”
       
       ต้อม : “ผมก็บอกว่ามันไม่ทันแล้ว ทีแรกก็ว่าจะขโมยกุญแจตู้ที่มีเอกสารหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นของบ้านหรืออะไร แต่ก็ไม่ทัน”
       
       ครูแหม่ม : “ไม่ทันจริงๆ มันไปหมดแล้ว ครอบครัวเราหายนะมากๆ คือน้องครูแหม่ม(น้ามด) กินอยู่อย่างพอเพียง แต่เขาก็มีเครดิต มีคนมายืมเงินนะ แต่เขาก็อยู่กันอย่างมีความสุข กินอยู่อย่างพอเพียง วิถีชีวิตของคนพื้นบ้านยากจนแต่ก็มีความสุข แล้วอยู่ๆ นาธานก็เอาความอลังการงานสร้างเข้ามา มาวันแรกจากที่ถูกจับเราก็ชวนไปอยู่ที่บ้านที่เชียงคาน ตอนวันที่ 19 ธันวาคมปี 52 พอไปปุ๊บเขาก็พูดกับญาติของครูแหม่มว่า จะสร้างโรงเรียนนานาชาติ ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินสักสลึง แต่เขาสามารถกล่อมพูดให้ทุกคนเชื่อว่า จะมีการมีงานทำว่าไอ้นี่มันจะมาสร้างความเจริญ”
       
       ยอมรับไม่ลืมหูลืมตาฟังเสียงกระแสสังคมรอบข้าง เพราะรักและห่วงเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เชื่อว่า “นาธาน” น่าจะป่วยทางจิต เพราะอกตัญญูกับผู้มีพระคุณได้ขนาดนี้
       
       ครูแหม่ม : “กระแสของสังคมมีอยู่แล้ว เกลียดอยู่แล้ว แต่เขาสามารถที่จะแปลงคำเกลียดให้เป็นคำรักได้ จิตวิทยาเขาสูงมาก เอาความรักของญาติพี่น้องที่บริสุทธิ์ มาเป็นการหลอกลวงแบบอำมหิตมากด้วยนะ ปล้นจี้กันเลยมันก็ยังดีกว่า แต่นี่เราก็รัก ให้กินข้าวกินดีอยู่ดี นาธานนี่จะไม่ได้กินแบบน้องๆ นะ น้องๆ จะธรรมดาอะไรก็ได้ แต่นาธานอาหารจะหรู ขับรถไปกินในเมืองเลย ค่าอาหารน้ามดก็จ่ายหมด คอยซื้อบุหรี่ให้ อย่างสามีน้ามดยังใช้แค่ใบตองมามวน แต่นาธานวันละ 3 ซองแล้วก็ยี่ห้อแพงด้วยนะ”
       
       “จริงๆ แล้วครูแหม่มก็ผิดนะ เหมือนพ่อแม่รังแกฉัน แต่มันสอนเขาไม่ได้ เพราะเรามาเจอเขาตอนโตแล้ว เราจะไปสอนอะไรเขาได้ เราก็เลยเป็นแม่ไปโดยปริยาย โดยที่ไม่ได้ไปจดทะเบียนอะไรทั้งสิ้นจนกระทั่ง 10 กว่าปีไม่รู้เป็นได้ยังไง ครูแหม่มกำลังจะไปเช็คสมองอยู่ แต่ตอนที่เขาออกไปจากบ้านก็ไม่รู้เขามีเงินติดตัวไปด้วยหรือเปล่า เพราะนั่นคือวาระสุดท้ายเราตัดขาดเขาแล้ว ตั้งแต่เขามาด่าตา แต่น้ามดก็ยังใจอ่อนยิ่งกว่าพี่เต็ม (แม่บ้านสมาน สุขเสริม) อีก ครูแหม่มบอกเขาว่าถ้าเข้ามาบ้านอีกจะแจ้งความข้อหาบุกรุก แต่น้ามดยังไปถามเขาว่ากินข้าวหรือยังลูก แอบเอาเงินไปให้อีกนี่ครูแหม่มเพิ่งมารู้นะ”
       
       น้ามด : “เขามีเงินติดตัวหรือเปล่าเราก็ไม่สามารถรู้ได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำงานอะไร รีสอร์ทก็ยังไม่เสร็จ เขาก็แค่คุมบ้านให้แม่ นอกนั้นเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีรายได้ เงินที่เขาเอาไปก็ไม่มีงอกเงย เขาบอกเอาไปทำทัวร์ บอกเงินจะเข้า แต่พอไปตรวจสอบก็ไม่เคยมี เราก็นั่งรถไปขายของตอนตี 2 น้ำตาไหลทุกวัน จนไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว ก็อโหสิให้นะ แต่ให้ดำเนินการตามกฎหมาย”
       
       ครูแหม่ม : “แต่ตอนกรณีของแม่บ้านตอนนั้นครูแหม่มยอมรับเลยว่า กระแสจะว่า จะวิจารณ์ ณ วันนั้นครูแหม่มขอโทษมากๆ ด้วยความรัก ที่ครูแหม่มคิดว่าเขาเป็นลูก พอลูกเดือดร้อนเราก็ทำทุกอย่าง เราก็ผิดนะ พอเขาบอกไม่จริงเราก็ปกป้องน่าดูเลย คือร้อยเปอร์เซ็นต์ครูแหม่มกระโดดปกป้องไปสามร้อยห้าร้อย ณ วันนั้นใครกระโดดถีบครูแหม่มได้ ครูแหม่มก็ไม่โกรธนะ เพราะว่ากระแสสังคมเขาจะไปถึงไหนแล้ว แต่ครูแหม่มยังช้าเนื่องจากว่าความรักความผูกพัน เราก็อยากให้เขาดีขึ้น คิดว่าเขารักเราเหมือนแม่ หรือเขาจะรักเราเฉพาะตอนมีเงินหรือเปล่าไม่รู้ พอตอนไม่มีเงินก็แปรเป็นอื่นก็ไม่รู้เหมือนกัน”
       
       “เขาป่วยทางจิตหรือเปล่า ครูแหม่มก็คิดนะว่ามันเป็นโรคจิตหรือเปล่า ต่อมจิตใต้สำนึกเขาคงไม่มี ถ้าเขามีก็คงไม่มาหลอกผู้มีพระคุณ แต่เขาจะหลอกเฉพาะคนที่รักและมีพระคุณกับเขามากๆ ซึ่งพ่อแม่หรือครอบครัวก็คงไม่มาทำแบบนี้ เราก็เลยคิดว่ามันเป็นโรคจิตหรือเปล่า คือเขาจะรู้จุดอ่อนของแต่ละคนว่าชอบไม่ชอบอะไร อย่างน้าคนนี้ชอบเพลงพื้นบ้าน ก็ไปบอกเขาว่านาธานจะออกเทปเพลงพื้นบ้าน จะเอาเงินมาให้ใช้สุดๆ ไปเลย เขาจะรู้คนนี้มีจุดเด่นจุดด้อยยังไง เขาเหมือนไปอยู่หมู่ใดหายนะหมด เหมือนพี่ชิ อนุชาที่ปั้นเขามา เขายังเนรคุณได้ ทำเรื่องใส่ร้ายป้ายสีจนต้องออกจากอาร์เอส ตอนอยู่ลับหลังพี่เปี๊ยก โมเดลเขาก็ยังมาแอบด่า เราก็ยังไม่เชื่อนะ พอเขามาพูดดีเราก็ให้อภัยเขาตลอด”
       
       พร้อมตั้งรับที่จอมลวงโลกบอกว่าจะออกมาแฉกลับ ลั่นให้อภัยแต่วอนอย่าไปทำร้ายคนอื่นอีก
       
       ครูแหม่ม : “ที่เขาบอกจะแฉกลับเรา อันนี้ครูแหม่มตั้งรับได้ เพราะว่าสังคมตอนนี้ ความดีนาธานจะเอาเข้าตัว ความชั่วให้คนอื่น ตอนนี้เรารู้แล้ว คือเขาสามารถแปลดำเป็นขาว แปลขาวเป็นดำ ตอนนี้นาธานคงคิดว่าความผิดทุกอย่างจะโยนมาให้ครูแหม่ม แต่รับรู้ไว้นะว่าสังคมฉลาดยิ่งกว่าครูแหม่มอีก ครูแหม่มยังรู้ช้าด้วยซ้ำ สังคมเขาแยกแยะได้ว่าใครชั่ว ใครเลว ใครดี ตอนแรกครูแหม่มไม่อยากออกมาพูดนะเพราะว่าอาย ทุกคนพูดหมดเลยว่ามันจะเข้าตัวนะ ให้มันจบๆ ไป เราก็ถามว่าแล้วเงินของน้ามดล่ะ เขาก็บอกกันว่าหาใหม่สิ แล้วกว่าจะหาได้ล่ะ แล้วยังมีคนอื่นที่โดนหลอกอีกล่ะ เราก็นอนตายตาไม่หลับนะ ก็เลยบอกว่าเราปกป้องคนชั่ว เรายังทำได้เลย”
       
       “ณ ตอนนี้ครูแหม่มก็ขออภัยทุกคน ขอบอกผ่านรายการเลยว่าครูแหม่มผิด ยอมรับผิดแล้วก็ขอโทษ(ยกมือไหว้) แล้วครูแหม่มก็อยากทำคุณประโยชน์ก่อนตาย เชื่อครูแหม่มสักหนึ่งเปอร์เซ็นต์เถอะที่จะไม่เป็นเหยื่อของเขา ตอนนี้ทุกคนรอบตัวเราเป็นเหยื่อเขาหมดแล้ว พระสงฆ์องค์เจ้าอย่านึกว่ารอด ทุกคนขอให้เจอนาธานก่อนแล้วจะรู้ว่า เขามีจิตวิทยาในการพูดเป็นยังไง พี่เปี๊ยกก็เตือนครูแหม่มตลอดนะว่า คนเราอย่าไปฟังคำหวานมาก เขาก็พูดแรงๆ สะท้อนกลับเราบ้าง ไม่งั้นเราลืมตัว แต่ครูแหม่มก็เคยด่าเขาไป ตอนนี้ขอโทษเขาแล้ว มันก็เลยทำให้ครูแหม่มหายนะจนถึงทุกวันนี้”
       
       “ถ้าคนอื่นไปเจอนาธานอีกเหรอ คือตอนนี้ครูแหม่มทุกข์เหลือเกินนะ ฆ่าตัวตายได้ฆ่าไปแล้ว แต่นาธานก็จะมีโลกส่วนตัวของเขา เล่นอินเทอร์เน็ต ไม่เดือดร้อน มีเงินมีทองใช้ ไม่มีครูแหม่มเขาก็มีคนอื่น มีผู้มีพระคุณคนใหม่แล้ว ครูแหม่มก็เตือนผู้มีพระคุณคนนี้นะ เขาก็โกรธครูแหม่ม คือขอเตือนเถอะก่อนตาย จะเชื่อไม่เชื่อไม่เป็นไร แล้วเขา(นาธาน) ก็สามารถโทรไปบอกผู้มีพระคุณคนนั้น ทำให้เราโกรธกันเกลียดกัน จะได้ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของเขา ผู้มีพระคุณคนนี้ครูแหม่มไม่ขอบอกแล้วกันว่าเป็นใคร แต่เขาอยู่ที่กรุงเทพฯ นี่แหละ”
       
       “ที่แจ้งความไปก็ยังสืบพยานรอบข้างอยู่ ตำรวจบอกว่าขอสืบพยานก่อน แล้วก็จะมีหมายเรียกครั้งที่หนึ่ง หมายเรียกครั้งที่สองแล้วก็จะออกหมายจับ แต่ที่เขาเปลี่ยนทั้งชื่อทั้งนามสกุลเราก็รู้แล้วค่ะ ชื่อแรก ธัญญวัฒน์ หยุ่นตระกูล แล้วก็มาอีกชื่อนึง นธัญ โอมานันท์ แต่อยากบอกนาธานว่าคุณจะเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่คุณหนีกรรมไม่พ้น กฎหมายเขาไม่ได้มีไว้ขังคนดี เขามีไว้ขังคนชั่ว(น้ำตาซึม) ก็อยากบอกนาธานว่าทำมาหากินโดยสุจริตเถอะ หยุดซะ แต่ถึงแม้จะบอกไปเขาก็ไม่เชื่อหรอก ก็ขอให้พวกเราเป็นครอบครัวเป็นเหยื่อรายสุดท้าย ขอให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ต้องมาทดแทนพระคุณอะไรทั้งสิ้น”


มดดำขณะคุยกับนาธาน

       
       หลังจากนั้น “นาธาน” ก็โทรศัพท์กลับมาหาทีมงานของรายการ “มดดำ” เป็นผู้รับสายและพูดคุยกันเองอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเปิดสปีคเกอร์โฟนให้นักข่าวฟัง
       
       มดดำ : “ตอนนี้ครูแหม่มกับน้ามดอยู่ในรายการพี่ทั้ง 2 คนเลย จะอะไรกับเขาหรือเปล่า”
       
       นาธาน : “บอกใครนะครับ”
       
       มดดำ : “นี่เขาอยู่ตรงนี้กันหมดเลย เดี๋ยวลองคุยกับเขาแล้วกัน เขาไม่คุยเหรอ นี่ตอนนี้เขาอยู่ที่รายการพี่หมดแล้ว”
       
       นาธาน : “ใครเหรอๆ”
       
       มดดำ : “ก็มีน้ามด มีครูแหม่มมีอะไรอย่างนี้ เขาบอกว่านาธานไปโกงเขาหมดเนื้อหมดตัวเลย ทำไมไม่สำนึกบ้างเลยเหรอ”
       
       นาธาน : “โอ๊ย ตายแล้ว ไปอ่านสัมภาษณ์เดลินิวส์พรุ่งนี้ดีกว่า หน้าหนึ่ง สะใจกว่าเนอะ ของจริงๆ นี่จริง พี่จริงๆ ของจริงของแท้เลยแหละ”
       
       มดดำ : “อ้าว แล้วนี่บ้านเขาไฟ-น้ำจะตัดหมดแล้วนะ”
       
       นาธาน : “อ้าว แล้วไอ้รีสอร์ทที่ทำน่ะของใครล่ะ ตังค์น่ะ เขาถามหรือเปล่าเรื่องเงิน เขาหลอกให้ธานไปทำรีสอร์ทที่นั่น หลอกให้ไปสร้างบ้านที่นั่นหมดเนื้อหมดตัวเหมือนกันพี่(หัวเราะ)”
       
       มดดำ : “อ้าว แล้วตอนนี้เขาบอกว่านาธานมีผู้มีพระคุณเหรอ มีผู้มีพระคุณซัพพอร์ทเงินอยู่เหรอ”
       
       นาธาน : “อะไรนะครับ”
       
       มดดำ : “เขาบอกว่าตอนนี้มีคนซัพพอร์ตเงินให้นาธานอยู่เหรอ”
       
       นาธาน : “โอ๊ย พี่มดเดี๋ยวค่อยสัมภาษณ์ดีกว่า ตอนนี้มันไม่เป็นรูปเป็นทางการเลยนะ โอเค”
       
       มดดำ : “ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ใช่ไหม”
       
       นาธาน : “อยู่กรุงเทพฯ ครับ โอเคนะ พี่ๆ น้องๆ กันเดี๋ยวค่อยไปหา เดี๋ยวค่อยโทรเมาท์กัน”
       
       มดดำ : “งั้นเดี๋ยวพี่ให้รายการพี่โทรติดต่อไปได้ไหม”
       
       นาธาน : “ได้พี่มด ไม่ต้องซีเรียสเลย พี่จะด่าแหกปากอะไรธานก็ได้ ไม่มีอะไรหรอกธานเฉยๆ มาก”
       
       ซึ่งพอ “นาธาน” วางโทรศัพท์ไป “มดดำ” ก็ให้สัมภาษณ์สิ่งที่คุยกันเมื่อสักครู่ว่า ไม่อยากยุ่งเรื่องของชาวบ้านอีกแล้ว กลัวซ้ำรอยกรณีที่พูดเรื่อง “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” เลิกนักร้องสาว “มาช่า วัฒนพานิช”
       
       “สรุปแล้วเมื่อกี้เขาก็โทรกลับมาในรายการว่า เหมือนจะมาออกรายการเรา เหมือนจะมาให้มดดำสัมภาษณ์ได้ แต่ถามว่าเชื่อไหม ตอนนี้เขาบอกว่าเขาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว ก็ติดต่อมาทางทีมงานของมดดำ ไม่รู้สิ แต่เมื่อกี้เขาก็ปฏิเสธหมดทุกเรื่องล่ะครับ นี่ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาแล้วนะเนี่ย(หัวเราะ) แล้วเขาก็บอกว่าตอนเช้าๆ พี่จะแหกปากเห่าอะไรไป ก็พูดไปเรื่อยๆ เมื่อกี้ไม่ได้ยินเหรอเขาก็พูดอยู่ รู้สึกยังไงเหรอ ไม่เอาแล้ว ไม่อยากยุ่ง ไม่ตอบเรื่องคนอื่นแล้ว(หัวเราะ)”
       
       “แต่ที่เขาโทรมาก็เพื่อที่จะยอมให้รายการของเราสัมภาษณ์เขา แล้วก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เมื่อกี้ก็เลยถามเขาว่าแล้วทั้งน้ามดทั้งครูแหม่มมาอยู่ในรายการแล้ว ตอนนี้มาพูดกับพี่ว่าหมดเนื้อหมดตัวไม่สงสารเขาเหรอ เขาก็บอกว่าเขาหมดตัวมากกว่าอีก เขาเอาเงินไปลงทุนทำรีสอร์ทหมดแล้ว แล้วพรุ่งนี้เขาก็จะให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์หน้าหนึ่ง เดี๋ยวก็ต้องไปติดตามว่ายังไง แล้วเขาก็ให้รายการบอกเล่าเก้าสิบไปเจอเขา ซึ่งตอนนี้เขาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว แต่คิดว่าไม่ได้สัมภาษณ์หรอก ฉันไม่เชื่อ แต่นี่เขาเป็นคนโทรกลับมาเองนะ ทีมงานเป็นคนโทรไป แต่เขาไม่รับ แล้วเขาก็โทรกลับมา ให้พูดอะไรกับนาธานเหรอ โอ๊ย ไม่ๆ ไม่เอาแล้วช่วงนี้ ก็ถ้าสมมติเขามาก็จะเรียนเชิญนักข่าวทุกท่านมาอีกทีแล้วกัน แต่ถ้าให้ไปลงความเห็นไม่เอาแล้ว”
       
       จากนั้นผู้สื่อข่าวได้กลับไปสัมภาษณ์ “ครูแหม่ม” ต่อที่ “นาธาน” พูดว่า หมดตัวไปกับการทำรีสอร์ทเช่นเดียวกัน
       
       “เขาก็ต้องโยนความผิดให้ครูแหม่มใช่ไหมคะ แต่เราตั้งรับไว้แล้ว เขานิสัยที่ความดีเอาเข้าตัว ความชั่วเข้าคนอื่น การที่เขาไปอยู่บ้านครูแหม่ม แล้วครูแหม่มจะสร้างบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ ครูแหม่มก็มีหลักฐานในการกู้ยืมเงินด้วย 9 แสนบาท ธ.ออมสินให้ความเมตตามา จ่าย 3 งวด 270,000 สองงวด แล้วก็ 340,000 งวดสุดท้าย แต่ 9 แสนนี่เงินไม่พอหรอก ก็เอาโฉนดที่ดินที่สร้างรีสอร์ทไปจำนอง แล้วก็เอามาเพิ่มหมดไปอีกล้านกว่า แต่หลักฐานทุกอย่างอยู่กับนาธานหมดในการกู้ แต่โฉนดเป็นชื่อของคุณแม่ครูแหม่มซึ่งเป็นมรดก ครูแหม่มน่ะไว้ใจ เขาว่าไม่มีอะไร เขาก็คุมดูแลบ้านของครูแหม่ม”
       
       “โดยถ้าครูแหม่มไปเอาเงินแต่ละงวด แม่ครูแหม่มเป็นพยานได้จะเอายัดใส่มือให้นาธาน แล้วบิลค่าใช้จ่ายอะไรต่างๆ เขาก็จะบอกกับคุณยายว่า คุณยายครับเอาบิลเก็บไว้กับนาธานนะ แล้วเดี๋ยวจะให้แม่แหม่มดูว่าเงินงวดแรกใช้จ่ายอะไรบ้าง พองวดที่สองมา เขาจะไปธนาคารกับเราด้วยทุกครั้ง ถ้าไม่มีก็ไม่ไป พองวดที่สองยายก็เอาใส่มือเขาเหมือนกัน แต่ละบิลเขาก็จะบอกว่าเอาเก็บไว้เดี๋ยวผมจะเก็บไว้ให้แม่แหม่ม ขณะนั้นเขาก็สร้างรีสอร์ทซึ่งมันหรูไป ที่พัก 10 หลังในที่ของแม่ครูแหม่ม เขาก็ขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ครูแหม่มว่าเขาจะทำรีสอร์ทนะ พ่อแม่ของครูแหม่มก็บอกก็ทำไปสิ”
       
       “แต่ครูแหม่มไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย แต่เขาจะมีผู้ใหญ่ซัพพอร์ท เราก็เห็นว่าลูกมีอาชีพเป็นของตัวเองแล้วนะ จะได้ทำมาหากิน แล้วก็จะได้อยู่กันไปแบบดินฝังหน้ากันไปเลย ก็ดีใจที่เขาจะมีอาชีพ เพราะเราก็เลี้ยงดูเขามา 10 กว่าปีนะคะ แต่พอที่เขาโทรศัพท์มาเมื่อกี้ ก็ทุกข์ใจตั้งแต่วันแรกที่รู้แล้วล่ะ คือมันสอนใจเราได้นะว่า รักใครอย่ารักแบบไม่ลืมหูลืมตา ญาติพี่น้องเรายังไม่เอาใจใส่ขนาดนั้น แล้วเขาลูกนอกไส้นะ แต่ขอโทษนะคะลูกนอกไส้บางคนอาจจะดีก็ได้ อย่ามาเทียบกันนาธาน ก็ต้องขอโทษเพราะมันไม่เหมือนกัน”
       
       บอกเชื่อไม่ได้ที่จอมลวงโลกบอกว่าตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมาพูดแต่ละครั้งเปลี่ยนสถานที่ตลอด ลั่นยังไงก็จะเอาเข้าคุก
       
       “เมื่อกี้ที่เขาบอกว่าอยู่กรุงเทพฯแล้ว ครูแหม่มจะบอกว่านาธานเขาบอกแต่ละอย่าง ลมหายใจเข้าออกของเขามันโกหกหมด จนครูแหม่มจับจุดไม่ได้ บางวันโทรมาบอกอยู่โคราชกับปาน ธนพร บางวันไปโผล่อีกทีสุโขทัย ครูแหม่มก็ไม่รู้ว่าเขาหายตัวได้หรือเปล่า แต่ตอนนี้ครูแหม่มทำใจแล้ว ตั้งรับได้ แล้วครูแหม่มไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม ไม่รู้จริงๆ ค่ะ แต่เรื่องปลอมเสียงนี่คุณยายเห็นแล้วมาเล่าให้ฟังว่า เขาบีบจมูกแล้วก็ถามทางธนาคารออมสินว่าเงินแม่จะออกไหม ยายก็เลยบอกว่าเงินมันเหรอ ถ้ามันเซ็นแทนได้มันคงเซ็นแทนแล้ว ส่วนบิลต่างๆ เขาก็เก็บไว้ที่เขาหมดเลยนะ พอเขาเอาบิลไปเก็บไว้หมดแบบนี้ครูแหม่มรู้เลยว่า เขาต้องบอกว่าบิลพวกนี้เขาเอาเงินจากผู้มีพระคุณมาสร้าง”
       
       “แต่ครูแหม่มไม่กลัวนะ เพราะว่าเรามีเงินที่มาที่ไปของเรา แล้วถ้าครูแหม่มทำผิดอะไรให้นาธานออกมาดำเนินคดี แจ้งความที่โรงพักเลย เชิญ ยินดีมากเลย แล้วที่เขาบอกเมื่อกี้ว่าเขาเอาเงินมาลงทุนทำรีสอร์ท จะบอกว่าคนอย่างนาธานไม่มีเงินสักสลึง คนที่หมดตัวคือญาติและครอบครัวของครูแหม่ม สังคมเขาแยกแยะออกได้นะนาธาน เขาฉลาด อย่ามึน แยกประเด็นให้ถูก เขาถามเรื่องทัวร์ก็เบี่ยงมาไม่เป็นไร มันจะมีคดีอื่นๆ อีกตามมา ไม่เป็นไรงานนี้ครูแหม่มไม่เลิกแน่ๆ ต่อให้ครูแหม่มตายก็จะมีน้องต้อมประสานงานเอาเข้าคุกให้ได้ คนชั่วน่ะ นาธานเป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม เป็นอาชญากรรมของแผ่นดินเลยนะ ถ้าครูแหม่มตายพวกเราช่วยกันเลยนะ ไม่งั้นลูกหลานเราโดนเลยนะ”
       
       “ถามว่าคดีที่แจ้งความไว้มีอะไรบ้าง มันยาวเป็นมหากาพย์เลยนะ ก็สงสารตำรวจร่างมายาวมาก แต่ที่รวมคร่าวๆ ก็ว่าอาจจะฉ้อโกง เพราะว่าเขาวางแผน คิดหลอกลวงเราแบบแยบยลมาก แล้วหลอกลวงกับผู้มีพระคุณนี่ไปตายแล้วเกิดใหม่เถอะ ตอนนี้ก็มีหลายกระทงมาก นี่คุณตาคุณยายยังไม่ได้แจ้งความเรื่องวัวนะ เอาแค่ของน้ามดนี่แน่นๆ เอาให้ผ่านก่อนแน่นๆ เลย แล้วค่อยมาเอาของครูแหม่ม แล้วยังมีคนที่เขาไม่ออกชื่อ เพราะเขาอายที่ยังไม่กล้าออกมา แล้วเขายังมาห้ามครูแหม่ม คือเหยื่อมันเยอะแยะมากมาย นาธานทำมาหากินเถอะ เป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม คนแบบนี้มันไม่ไหว แต่งานนี้เอาถึงคุกเลยบอกไว้แล้ว”
       
       “ตอนนี้สังคมเห็นใจหรือประณามเราเหรอ ตอนที่ครูแหม่มแถลงการณ์ปกป้องเขาครั้งแรกก็มีความรู้สึกว่ากำกวม ไม่มีคำตอบให้ประชาชนเลย แต่ตอนนั้นมันรักก็ปิดหูปิดตาหมดเลยด้วยความที่รักลูก แต่ไม่ต้องเอาเยี่ยงอย่างนะ ครูแหม่มขอโทษไปแล้ว และถ้าให้รับผิดครูแหม่มก็ยอมรับผิด การมาครั้งนี้ก็มีคนเตือนนะ พี่ ป้า น้า อาเตือนหมด ก็มีผู้ใหญ่ท่านนึงที่ครูแหม่มเคารพ เขาก็บอกว่าถ้างูเลื้อยเข้าบ้านกับนาธานมา มึงตีนาธานให้ตายเลยนะ เราก็ว่าจริงแฮะ แต่ตอนแรกไม่เชื่อนะ มาพูดอะไรอย่างนี้ได้ยังไง ก็โกรธเขาอีก”
       
       ฝากไปถึงพ่อแม่ที่แท้จริงของจอมลวงโลกว่า ให้มารับลูกชายกลับไปซะ อย่าให้มาทำร้ายให้ใครเดือดร้อนอีก เพราะพ่อแม่ที่แท้จริงก็เห็นว่าอยู่สุขสบายดีทุกอย่าง
       
       “ก็อยากจะวอนไปถึงคุณพ่อคุณแม่เขา เพราะทราบมาว่าคุณแม่เขาสบายมาก ขับรถอย่างดีเลย คุณพ่อก็สบาย นาธานยังโทรไปเอาเงินจากน้องต่างพ่อเขาที่พิษณุโลกเลยนะ อันนี้ครูแหม่มก็รู้จากนักข่าวอีกทีก็ต้องขอบคุณนักข่าวด้วย เพราะว่าครูแหม่มตาบอดมานานแล้ว ก็เห็นว่าครอบครัวแม่เขาก็อยู่ดีกินดี ก็ขอเถอะนะคะ(ยกมือไหว้) ให้คนอื่นเลี้ยงดู หลอกลวงคนอื่นอย่างนี้ก็เอากลับไปเถอะ คือการเช็คโรคจิตนี่ก็ไม่ใช่ว่าดีหรือไม่ดีนะ ครูแหม่มก็อยากไปเช็ค นาธานก็ไปเช็ค ว่าทำไมต่อมรับรู้ความเลวของนาธานเราถึงรับรู้ได้ช้า คนอื่นไปกันถึงมหาสมุทรไหนแล้วครูแหม่มยังด้อมๆ อยู่ที่นี่เลย”
       
       “พวกหนี้สินต่างๆ เราก็ต้องชดใช้ไป แต่ก็ต้องบอกว่าน้ามดเองเขาก็ได้เงินจำนวนนึงจากสื่อนี่แหละ คือพอเป็นแบบนี้ก็ยังมีคนเข้าใจเรานะ พอสื่อลงไปปรากฏว่าเจ้าหนี้ของน้ามดก็มาบอกว่าเรื่องดอกเบี้ยก็ค่อยว่ากันนะ แกก็น้ำตาไหลเลย ครูแหม่มก็อยากจะบอกว่าขอวอนเจ้าหนี้เถอะคือใช้แน่นอน อาจจะช้าหน่อยแต่ชัวร์ค่ะ ไม่ได้เอาไปแบบนาธานแน่นอน เราทำมาหากินแล้วเดี๋ยวเรามาชดใช้ให้ เรื่องดอกเราก็จะพยายามก้มหน้าหาให้”
       
       “ถ้าเจอหน้านาธานอีกครั้งจะทำยังไง (นิ่งคิด) พูดไม่ออกนะคะคนนี้ มันหมดอาลัยไปแล้ว เหมือนเขาไม่ใช่มนุษย์ เขาเป็นอมนุษย์ อสรพิษ งูนะมันเลื้อยเข้ามาจะกัดเรา มันยังไม่วกมา มันก็ยังต่างคนต่างไป แต่สำหรับนาธานผู้มีพระคุณของเขา เขาเป็นคนพูดเองเอารายการมาย้อนดูได้เลย ที่เขาว่ายังสู้แม่คนนี้ ญาติคนนี้หรืออะไรไม่ได้ แล้วเขากลับมาแบบนี้ ไปตายเกิดใหม่ 10 ชาติมันก็ยังไม่สาสม เตือนผู้มีพระคุณรายต่อไปอันนี้ก็มีคนบอกว่าอย่าไปเตือนเลย แต่ครูแหม่มก็เตือนไปแล้วนะ เขาก็เริ่มฟัง แต่ครูแหม่มรู้เลยว่าพรุ่งนี้เขาก็เปลี่ยน เพราะว่าวาทศิลป์ของนาธานน่ะสุดยอดแห่งเขาเหลียงซาน สุดยอดจริงๆ คือมหากาพย์ของนาธาน นี่กำลังให้พี่ชิ อนุชาเรียบเรียงเป็นตอนๆ แล้ว มันเป็นเรื่องที่ไปพูดในรายการอะไรไม่ได้ เพราะรายการเวลามันน้อย ถ้าให้เล่าก็เป็นมหากาพย์ยาวเลย มันเยอะมาก เขาจินตนาการอะไรผิดมนุษย์”
       
       “แต่จริงๆ เขาจะเป็นเพศไหน จะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายเราก็ไม่อยากพูดมาก ให้เกียรติเขา ถึงแม้จะยังไงก็เป็นเรื่องส่วนตัว คือจะเป็นอะไรเพศไหนครูแหม่มยอมรับได้หมด ขอให้เป็นคนดีและอย่าไปต้มตุ๋นใครเขา ที่ครูแหม่มบอกว่าเลี้ยงหมายังดีกว่าเลี้ยงนาธาน เพราะมันไม่มีอะไรจะเทียบได้กับคนๆ นี้แล้วก็เลยนึกคำพูดนี้มา ไม่รู้จะเปรียบเทียบอะไรจริงๆ ไม่ได้คิดว่าแรงเลย สำหรับเขาก็คงไม่สะเทือนใจอะไรหรอก”
       
       “ซึ่งก่อนไปเขาเหลือทิ้งไว้แต่อันเดอร์แวร์ ก็เป็นเรื่องจริงๆ อันนี้ก็ไปเห็นพร้อมนักข่าวเห็นแขวนอยู่เลย นี่แม่ครูแหม่มก็ซักให้นะ แม่ครูแหม่มไม่เคยซักให้ลูกนะ ยายน่ะดีกับนาธานมาก ถึงจะไม่มีจะกินยังไง คือเขาให้ยายไปยืมเงินคนอื่นดึกๆ ดื่นๆ ยายก็ไปให้ ซึ่งกับลูกไม่เคยทำแบบนี้เลย ครูแหม่มถึงได้คิดว่าครูแหม่มควรตกนรก คือกางเกงในเขาก็กองๆ ไว้กับพื้น แล้วที่นอนเขาแม่ครูแหม่มก็ซักให้ซะหอมเลยนะ ถามน้ามดได้เลย พ่อครูแหม่มยังบอกว่าลูก(นาธาน) มันกินข้าวหรือยัง กินหมูไม่ได้ ก็หาซื้อปลาซื้ออะไรมาให้เขากิน”
       

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)