แอ็กซิส ระบุมาตรฐานใหม่ H.264 ในกล้องรักษาความปลอดภัยไอพีเบสมาแรง ยอดขายในไทยโต 40% เชื่อปีหน้า บริการผ่านคลาวด์ เทรนด์มาแรง
นายนาฟิซ จัสมานี ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริษัท แอ็กซิส คอมมูนิเคชัน กล่าวว่า แนว โน้มเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูลของกล้องรักษาความปลอดภัยกำลังมุ่งไปสู่ มาตรฐานที่เรียกว่า H.264 มากขึ้น จากเดิมเมื่อ 12 เดือนที่แล้วมีผู้ผลิตกล้องรักษาความปลอดภัยได้นำเทคโนโลยี H.264 ไปใช้ถึง 58.8% โดยเชื่อว่า ภายใน 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนจะเพิ่มถึง 80% เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แบนด์วิธในการส่งข้อมูลและพื้นที่การเก็บ ข้อมูล แถมยังมีความยืดหยุ่นกว่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีแบบเก่าที่เป็น Motion JPEG ถึง 80% จึงทำให้คาดว่าจะมีการใช้งานอย่างกว้างขวางมากกว่ามาตรฐานการบีบอัดข้อมูล แบบเก่า
จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีดังกล่าว แอ็กซิสเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดที่จะขยายตลาดกล้องรักษาความปลอดภัยที่เป็น ดิจิตอล หรือไอพีเบสในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาตลาดไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานหลายแห่งเริ่มเปลี่ยนจากอนาล็อกมาเป็นกล้องรักษาความปลอดภัยที่เป็น ไอพีเบสเพิ่มขึ้น
นายนาฟิซ กล่าวถึงรูปแบบการใช้กล้องรักษาความปลอดภัยที่เป็นไอพีเบสว่าจะเปลี่ยนไปจากเดิม รูป แบบจะเป็นเรื่องของการให้บริการประเภทหนึ่งโดยผ่านทางคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยแอ็กซิสจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโฮสติ้ง มีพาร์ทเนอร์ที่จะเป็นเซอร์วิสโพรวายเดอร์ให้กับผู้สนใจใช้บริการตามบ้าน โดยจ่ายเป็นค่าบริการรายเดือน ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เก็บบันทึกข้อมูล มีเพียงกล้องไอพีของแอ็กซิสในแบบพร้อมใช้งานได้ทันที (Plug and play)
“บริการแบบนี้เริ่มมีแล้วที่สิงคโปร์โดยร่วมมือกับสิงเทล แต่ในไทยเพิ่งเริ่มต้นพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะเริ่มเปิดให้บริการเมื่อไหร่ ซึ่งน่าจะเป็นการบันเดิลไปกับบริการของพาร์ทเนอร์ที่อาจจะเป็นผู้ให้บริการ ทางด้านโทรคมนาคม หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต”
รูปแบบบริการที่เรียกว่า Video Content Analysis จะเป็นอีกบริการที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยแอ็กซิสได้ฝังซอฟต์แวร์ไว้ในกล้องบางรุ่นทำให้กล้องดังกล่าวมีความสามารถ ในการตรวจจับและทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งมีความสามารถตรวจจับได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การตรวจจับใบหน้า กำหนดพื้นที่ เตือนอัตโนมัติเมื่อกล้องไม่สามารถจับภาพได้ ฯลฯ
นายนาฟิซ กล่าวเสริมว่า บริการแบบนี้จะทำให้กล้องรักษาความปลอดภัยเป็นมากกว่าแค่รักษาความปลอดภัย สามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้ตอบสนองการทำธุรกิจได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับจำนวนคนเข้ามาใช้บริการ
อีกแนวโน้มหนึ่งที่จะเห็นก็คือ การ นำระบบกล้องรักษาความปลอดภัยใช้ทำงานร่วมกับระบบต่างๆ ภายในองค์กร ทำให้กลายเป็นโซลูชันที่มีสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองได้เพิ่มขึ้น
นายนาฟิซ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการตลาดในปีหน้าที่ทางแอ็กซิสจะทำก็คือ การให้ความรู้กับตลาดเพิ่มขึ้น ให้เห็นถึงประโยชน์ของกล้องรักษาความปลอดภัยว่า สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานในแต่ละกลุ่มธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบัน ตลาดส่วนใหญ่ของแอ็กซิสยังเป็นตลาดการศึกษาและภาครัฐเป็นหลัก โดยปีนี้มีอัตราการเติบโตประมาณ 40% ขณะที่การเติบโตของตลาดกล้องรักษาความปลอดภัยที่เป็นไอพีเบสจะมีเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง 10% ต่อปี
Company Related Link :
Axis
ที่มา: manager.co.th