Author Topic: ศึกเต้าชนเต้า! “ออย” งดสัมภาษณ์คู่ “เมเปิ้ล” ยันไม่มีเจตนาเอาเท้าเขี่ย  (Read 976 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      “ออย” งดสัมภาษณ์คู่ “เมเปิ้ล” ลั่นยังเสียความรู้สึกกับข่าวเอาเท้าไปเขี่ยอีกฝ่าย ยันไม่มีเจตนาและเป็นเรื่องเข้าใจผิด ยอมขอโทษถ้าเซ็กซี่รุ่นน้องยังติดใจ โต้รวมหัวกันปั่นกระแส รับน้อยใจมีแต่ข่าวแง่ลบซดเกาเหลากับคนอื่นตลอด
       
       กลายเป็นศึกชนเต้าซดเกาเหลาชามโตของ 2 สาวเซ็กซี่ไปโดยปริยาย หลังมิสแม็กซิม “เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์” ออกมาเผยว่า ไม่พอใจที่ถูกนักแสดงสาวรุ่นพี่ “ออย ศรุตา เรืองวิริยะ” ใช้เท้าเขี่ยกลางงานพิธีอาบน้ำจัณฑ์ ณ สำนักอาจารย์เม้ง ขุนแผน เมื่อวันลอยกระทงที่ผ่านมา และทันทีที่กลายเป็นประเด็นฉาว “ออย-เมเปิ้ล” ก็มีอันต้องโคจรมาเจอกันในงาน ''LEO Fashion @ CentralPlaza RAMA3'' ที่จัดขึ้น ณ ลานเบียร์ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 เมื่อวันก่อน
       
       ซึ่งงานนี้ของแรงกับของแรงมาเจอกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างทำเชิดไม่มองหน้ากัน แถมยังปฏิเสธที่จะถ่ายภาพหรือยืนให้สัมภาษณ์คู่กันอีกต่างหาก โดย “เมเปิ้ล” ได้รีบชิ่งเดินออกจากงานไปทันที เหลือเพียงแต่ “ออย” ที่พูดตอกย้ำกับสื่อว่า ไม่ขอสัมภาษณ์คู่ เพราะยังเสียความรู้สึกกับข่าวที่เกิดขึ้น
       
       “มันไม่ต้องสัมภาษณ์คู่ก็มันคือคนละเรื่อง อาจจะเรื่องเดียวกัน แต่ว่า.......จริงๆ ออยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้จะได้มาเจอกัน คือพอดีคิวน้องคนนั้นไม่ได้ ออยเพิ่งรู้ตอนบ่าย แล้วก็มารู้ที่งานนี้ค่ะว่าได้มาร่วมงานกัน แต่ก็ไม่อยากสัมภาษณ์คู่กันเฉยๆ เพราะความรู้สึกมันยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ ให้มันร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนแล้วค่อยสัมภาษณ์คู่ คือเราเป็นรุ่นพี่ เราอยู่ในวงการมาก่อน บางทีว่าเราก็ไม่รู้จะขอโทษยังไง เจตนาคือเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ มันเป็นการเข้าใจผิด ก็อาจจะมีกระทบกระทั่งบ้าง คือตรงนั้นเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ มันนั่งพับเพียบหลายชั่วโมงก็เมื่อย เพราะฉะนั้นก็ต้องมีสลับขาบ้าง แต่เราไม่มีเจตนาหรือว่าตั้งใจที่จะไปทำไม่ดีอะไร แต่ถ้าน้องเข้าใจว่าออยเอาเท้าไปสะกิดเขา ออยก็ขอโทษด้วย”
       
       “เมื่อกี้เจอกันก็ไม่ได้คุยไม่ได้ทักอะไรกัน ก็เฉยๆ ไม่รู้จะคุยอะไร ตัวเขาเองก็ไม่ได้มาขอโทษอะไรออย เขาก็เฉยๆ ค่ะ จริงๆ ออยไม่ได้ติดใจอะไรนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องอะไรขนาดนั้น เราก็คุยกับผู้จัดการเขา แต่จะไม่คุยกับตัวน้องเอง เพราะเราก็รู้ว่าเขาก็มีอารมณ์ เราก็มีอารมณ์ อย่างงานที่มีพิธีเป็นมงคลต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน คือ ร้อนหงุดหงิดอย่างนี้ เราก็เข้าใจว่ามีอารมณ์ แต่น้องเขาหันมาส่งสายตา เราก็แบบ อุ๊ย! แรงไปไหม เราก็แบบไม่ดีแน่ ลองเข้าไปคุยกับผู้จัดการว่า เราทำอย่างนี้ถูกไหม”
       
       “ก่อนหน้านี้เราถ่ายหนัง ผู้หญิง 5 บาป ด้วยกัน แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายร่วมซีนกัน ก็จะแยกต่างคนต่างถ่าย ดังนั้นไม่มีทางที่ออยจะเคยเหวี่ยงเขาหรือไม่กินเส้นกันมาก่อน คือออยจะสนิทกับโอ๋ (รุ่งระวี บริจินดากุล) มากกว่า เหมือนน้องเขาก็เพิ่งเข้ามาในวงการ สนิทกับเพื่อนที่เราเคยทำงานร่วมกันบ่อยๆ แต่ถามว่าเราติดใจอะไรไหม ก็ไม่ได้ติดใจนะ แต่ก็ไม่รู้น้องเขาติดใจอะไรหรือเปล่า”
       
       ปฏิเสธมีทิฐิถ้าอีกฝ่ายไม่คุย ก็จะไม่คุยด้วยก่อน บอกให้เวลาพิสูจน์ ถ้าตนรู้สึกผิดจะไปขอโทษอีกฝ่ายเอง
       
       “มันก็ไม่ใช่ว่าถ้าเขาไม่คุย เราก็จะไม่คุยก่อน แต่ออยไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเราก็ไม่ได้มีเจตนาเอาเท้าไปเขี่ย และมันใช้ศัพท์ที่ไม่ใช่เท้ามันแรงไป เราก็เลยตกใจ เราก็ไม่รู้นะ คือเพื่อนส่งข่าวมาให้ดู ถามว่าต้องการให้น้องเขามาขอโทษเราหรือเปล่า ก็ไม่ต้องมาขอโทษหรอกค่ะ ให้เวลาช่วยละกัน เวลาอาจจะบอกอะไรเอง หรือว่าวันหนึ่งออยรู้สึกตัวเองผิด ก็จะไปขอโทษนะ ก็จะบอกพี่ออยไม่ได้ตั้งใจ ก็ขึ้นอยู่กับเวลา”
       
       “ตอนนี้เราก็ยังร่วมงานได้ แต่ไม่ขอถ่ายรูปด้วย เพราะมันก็ยังไม่เคลียร์ แต่ถ้าเขาจะมาเคลียร์เราก็โอเคค่ะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โต แต่ข่าวมันออกมาค่อนข้างแรง คือตอนนี้ออยมีแต่ข่าวลบไปหมด พาดหัวเราเอาเท้าไปเขี่ย มันดูแย่ ก็เข้าใจว่ามีอารมณ์ แต่เราก็ให้เกียรติพิธีกรรมที่กำลังทำอยู่ แต่ไม่มีอะไรค่ะ ก็รักน้องเหมือนเดิม เราทำงานด้วยกัน ก็ผูกพันรักทุกคนแหละ แต่บางทีความรู้สึกที่ให้ไปดีๆ แต่พอให้กลับมาแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกแย่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าน้องคิดมากก็ขอโทษแล้วกัน เพราะพี่ไม่ได้ติดใจอะไรอยู่แล้ว”
       
       ปัดแท็คทีมกับ “เมเปิ้ล” สร้างกระแส รับน้อยใจมีข่าวในแง่ลบมาตลอด
       
       “ไม่จำเป็นต้องสร้างกระแสหรอกค่ะ เพราะตัวเมเปิ้ลก็ดังของเขาอยู่แล้ว ส่วนออยก็มีข่าวเรื่อยๆ ของออย ไม่จำเป็นต้องแบบว่าเกาะกันสร้างกระแส อีกอย่างมันเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไร มันเป็นการเข้าใจผิด ก็กระทบกระทั่งกันได้ แต่ว่าถ้าเขาแรงมาเราก็แรงกลับ เราก็เฉยๆ ไม่รู้สิถ้าคนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อย่างนั้นก็ไม่เข้าใจ อึดอัดไหม ร้อนไหม หงุดหงิดไหม ออยคิดว่าทุกอย่างมันอยู่ที่กาลเทศะ และออยเป็นคนที่รู้กาลเทศะ ไม่เช่นนั้นออยคงอยู่ในวงการไม่ได้นานขนาดนี้”
       
       “ออยมีข่าวมีปัญหากับคนโน้นคนนี้บ่อย ก็กลัวนะคนจะมองเราในแง่ลบ คนที่ไม่รู้จักออยต้องเกลียดออยแน่นอน เพราะว่าไม่มีข่าวดีๆ เลย ออยก็เหนื่อยแล้วก็เสียใจค่ะ ที่คนไม่เข้าใจคิดว่าเราชอบสร้างกระแสตลอดเวลา ใครจะสร้างกระแสตลอดเวลา บางครั้งก็ท้อเหมือนกัน ก็มีแอบร้องไห้ แอบเสียใจที่เออเราทำดีที่สุดแล้ว แต่บางครั้งมันเหมือนแบบอะไรก็ลบๆๆ อาจเป็นเพราะลุคของเราด้วย ลุคน้องเขาก็ดูแรง ดูเซ็กซี่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็เลยทำให้ดูยิ่งแรงๆ มากขึ้น”
       
       “ออยก็เสียใจ เพราะว่าเราก็ตั้งใจทำงานทุกอย่างเต็มที่ อย่างหนัง หรืออีเว้นท์ ทุกอย่างตั้งใจหมด แต่สิ่งที่กลับมาคือคำถามว่าทำไมไม่ถูกคนนั้น ไม่ถูกคนนี้ คือไม่ไปถามเขาบ้างล่ะว่า...ทำไมถึงไม่ไอ้นี่ออย ออยอาจจะเป็นคนที่พูดค่อนข้างตรงมั้ง มันก็เลยดูเหมือนเราแรง แต่จริงๆ แล้วในบางครั้งที่เรามองคนที่เฟคเก่งกว่าเรา เขาอาจจะร้ายกว่าเราก็ได้ แต่ด้วยความที่ลุคเราเป็นแบบนี้มั้ง เลยทำให้เราเป็นแบบนี้”












ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)