คอลัมน์ ไอทีทะลุโลก
โดย siripong@kidtalentz.com
แต่เดิมทีนั้น "โน้ตบุ๊ก" หรือที่ขนานนามกันว่า "แลปทอป" ซึ่งมุ่งให้คนใช้หิ้วติดตัวไปไหนต่อไหนได้นั้น ทั้งใหญ่เบ้อเร่อเบ้อร่า ประสิทธิภาพต่ำกว่า แถมยังราคาแพงสุดกู่ ต้องคนมีเงินถุงเงินถังเท่านั้นที่จะซื้อหามาใช้
แต่ทุกวันนี้ ภาพเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไป จากการคาดการณ์ของ "ไอดีซี" ปีนี้จะเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่ยอดขายโน้ตบุ๊ก ทั่วโลกแซงหน้าเดสก์ทอป จากเมื่อปีที่แล้วในอเมริกา โน้ตบุ๊กทำยอดแซงเดสก์ทอป ไปก่อนแล้ว
ขณะที่ เจ.ที. หวาง ประธานเอเซอร์ คาดว่าในไตรมาสที่สองของปีนี้ ยอดส่งออกจากโรงงานของเอเซอร์สำหรับเดสก์ทอปจะลดลง 5-10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยอดโน้ตบุ๊กจะเพิ่มขึ้น 35-40 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดียวกัน
การเติบโตของโน้ตบุ๊กแม้ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำนั้น เหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งมาจากบทบาทที่เปลี่ยนไปของโน้ตบุ๊ก จากการที่เคยเป็นอุปกรณ์ประเภทเครื่องเขียน มาเป็นโมบายคอมพิวติ้ง ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนที่ยกระดับจากการเป็นโทรศัพท์ขึ้นมาเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชนิดพกพาแบบหนึ่ง
ช่องว่างของราคาที่เคยห่างกันสำหรับเดสก์ทอปและแลปทอปเริ่มหดลงจนถึงกับไม่มีเลยในบางกรณี การกำเนิดขึ้นของ "เน็ตบุ๊ก" ที่อาศัยการพัฒนาชิป เทคโนโลยี ตลอดจนการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาด และปัจจัยอื่นๆ อีกบาง
ประการ ทำให้ราคาทั้งเดสก์ทอปและโน้ตบุ๊กลดลง แม้กระทั่งในระดับไฮเอนด์ที่เคยห่างกันมากในอดีตก็ถูกกดลงมาเช่นกัน จากเดิมที่ราคาเดสก์ทอปจะต่ำกว่า โน้ตบุ๊กราวครึ่งหนึ่ง
เดือนนี้เอง ในอเมริกา "เอทีแอนด์ที" เริ่มเปิดขายเน็ตบุ๊กราคาเพียง 99.99 เหรียญ ให้กับลูกค้า โดยมีเงื่อนไขให้ใช้บริการเครือข่ายผูกพัน 2 ปี และเชื่อว่าอีกหน่อยอาจจะมีเครือข่ายอื่นๆ ที่ใช้วิธีแจกฟรีด้วยซ้ำ
ย้อนหลังไปห้าปี ในอเมริกา โน้ตบุ๊ก ราคาต่ำกว่า 800 เหรียญ มีสัดส่วนเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ของโน้ตบุ๊กทั้งหมด แต่ตกมาถึงปัจจุบัน โน้ตบุ๊กราคาต่ำกว่า 800 เหรียญ มีสัดส่วนสูงถึง 35 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ทางด้านเดสก์ทอปเองก็แข่งกัน ทำราคาลงมาสวนทางกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้น แม้ดูเหมือนไม่มีที่ว่างให้เล่นในเรื่องราคาก็ตาม
การเติบโตของโน้ตบุ๊กในเมืองไทยก็ไม่หนีไปจากแนวโน้มของโลกเช่นเดียวกัน
ที่มา: matichon.co.th