ข่าวนี้คงจะทำเอาบรรดาผู้ผลิตหน่วยความจำทั้งหลายต้องหวั่นใจไม่มากก็น้อย เมื่อเว็บไซต์ DRAMeXchange รายงานว่า ราคาจำหน่ายชิฟหน่วยความจำแบบ DRAM นั้นลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และอาจจะยาวนานไปจนถึงกลางปีหน้า ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง โดยขณะนี้ราคาขายหน่วยความจำ DDR3 ขนาด 2 กิ๊กกะไบต์ ลดลงถึง 46% แล้ว ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากราคาขายที่ตั้งไว้ 46.50 เหรียญ เหลือเพียง 25 เหรียญเท่านั้น แถมมีแนวโน้มว่าอาจจะลดลงถึง 20 เหรียญ ภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย
ซึ่งเหตุผลดังกล่าวก็น่าจะมาจากการรวมตัวกันของผู้ผลิตเพื่อจะเพิ่มผลผลิตของสินค้า จนทำให้มีสินค้าใหม่ๆ ออกมาสู่ท้องตลาดกันมากขึ้น และดึงให้ความต้องการซื้อของผู้บริโภคนั้นลดต่ำลงไปด้วย ซึ่งตามหลักการของเศรษฐศาสตร์ที่กล่าวไว้ว่า การเพิ่มขึ้นของความต้องการขาย ขณะที่ความต้องการซื้อนนั้นต่ำ จะนำไปสู่ภาวะสินค้าล้นตลาด จนทำให้ต้องมีการหั่นราคาขายลง แท้จริงแล้วก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะการที่สินค้ามีราคาถูกลง ก็น่าจะทำให้ความต้องการซื้อมีมากขึ้น จนทำให้เกิดภาวะความสมดุลในตลาดก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไร มันก็เป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตพีซี และผู้บริโภค เพราะนั่นหมายความว่า บรรดาผู้ซื้อพีซีทั้งหลายจะสามารถต่อรองราคาให้ถูกลงสำหรับการซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ในขณะที่สินค้าก็จะเริ่มหมดจากสต๊อกเนื่องจากบริษัทรับจ้างผลิตหรือOEM ได้กว้านซื้อไปเพื่อทำให้สินค้าดีขึ้นแทนการลดราคาจำหน่าย นอกจากนี้เว็บไซต์ DRAMeXchange ยังคาดการณ์อีกว่า ตลาดหน่วยความจำน่าจะตกต่ำลงถึงขีดสุดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2011 ขณะที่ผู้ผลิตพีซีก็จะได้รับอานิสงค์จากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้จากตลาดเดสก์ทอปน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 36% ขณะที่แล๊บท๊อปน่าจะเพิ่มขึ้น 31% และ105% จากตลาดเน็ตบุ๊ค
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com
