"เจวีซี" ปรับแผนการขาย-องค์กรรับมือ ศก.ลามธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่เลิก โฟกัส สินค้าทำเงิน มาร์จิ้นสูง เทงบฯมาร์เก็ตติ้งหนุนกล้องแคมคอร์ดเดอร์ "Everio" เบรก แอลซีดี หลังราคาดิ่งลงแทบไม่เหลือกำไร เตรียมพาเหรดกองทัพสินค้าใหม่-ราคาสบายกระเป๋าเจาะตลาดล่างหวังครีเอตดีมานด์
นายวิบูลย์ ฤกษ์เกรียงไกร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจวีซี เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแผนการทำตลาดหลังจากนี้ว่า บริษัทได้เปลี่ยนรูปแบบการทำตลาดใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเน้นมาที่สินค้าที่ยังมีความต้องการและไม่มีการแข่งขันราคามากนัก เพื่อเป็นตัวหลักในการสร้างยอดขาย ท่ามกลางวิกฤต ซึ่งกล้องบันทึกวิดีโอหรือแคมคอร์ดเดอร์ "Everio" จะกลายเป็นสินค้าไฮไลต์ของเจวีซีในปีนี้
โดยเฉพาะแคมคอร์ดเดอร์ในเซ็กเมนต์ฮาร์ดดิสก์ที่ตลาดเติบโตสูงขึ้นกว่า 40% และเริ่มเข้ามามีบทบาทและกินส่วนแบ่งกล้องที่บันทึกด้วยเทปและแผ่นดิสก์ เนื่องจาก มีขนาดเล็กและเบาทำให้สะดวกในการ พกพา มีฟังก์ชั่นการทำงานที่มากกว่า และมีราคาที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้ทำรายได้หลักให้กับบริษัทและเจวีซีที่ยังครองความเป็นผู้นำตลาด
การแข่งขันของกล้องฮาร์ดดิสก์ยังมีคู่แข่งไม่มากนัก มีเพียงเจวีซีและโซนี่ที่ ขับเคี่ยวกันอยู่ การที่เจวีซีโฟกัสมาที่กล้องเป็นหลักจะทำให้สัดส่วนพอร์ตการขายจากนี้เปลี่ยนไป โดยกล้องแคมคอร์ดเดอร์จะขยับขึ้นมาเป็นฐานรายได้หลัก 50% แทนที่แอลซีดี ทีวีที่จะลดลงเหลือ 35% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากกลุ่มเครื่องเสียงหรือออดิโอ 15%
นายวิบูลย์ให้เหตุผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการขายใหม่นี้ว่า เนื่องจากตลาดแอลซีดี ทีวีซึ่งแม้ว่าจะมีฐานของตลาดที่ใหญ่ แต่จากปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบไปทั่วโลกนี้ทำให้ดีมานด์ลดลงและการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะราคาที่ปรับลดลงมากเนื่องจากแต่ละค่ายต้องการจะรักษามาร์เก็ตแชร์ของตัวเองไว้และต้องการจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดมาจากคู่แข่ง ซึ่งเจวีซีไม่มีนโยบายจะเข้าไปแข่งขันในช่วงที่ราคาตลาดผันผวน
"เจวีซีจะทำตลาดในลักษณะ keep maintain ไม่บุกแต่ก็ไม่ทิ้ง และจะยังไม่ออกสินค้ารุ่นใหม่เข้ามา แต่เมื่อเห็นสัญญาณรวมทั้งกำลังซื้อเริ่มที่จะกลับมาก็พร้อมจะบุกด้วยการอาศัยจุดแข็งที่มีโรงงานฐานประกอบแอลซีดีในเมืองไทย"
นายวิบูลย์กล่าวว่า ปีนี้บริษัทวางงบฯการทำตลาดไว้เท่ากับปีที่แล้ว และจะใช้กับการทำตลาดกล้องแคมคอร์ดเดอร์มากกว่า 50% ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายใน รูปแบบต่างๆ อาทิ กระตุ้นด้วยแคมเปญ 0% และเร่งการขายหน้าร้านแบบอินสโตร์โปรโมชั่น ฯลฯ ซึ่งเป็นแนวทางการทำตลาดที่เปลี่ยนไป
"ที่ผ่านมาเราได้เริ่มวางแผนตั้งรับวิกฤตกำลังซื้อมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ที่เริ่มเห็นสัญญาณไม่ค่อยดีและปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในใหม่ พร้อมๆ กับการโฟกัสไปในกลุ่มสินค้าที่มีความแข็งแกร่งและตลาดยังมีความต้องการเป็นหลัก"
นายวิบูลย์กล่าวว่า ควบคู่กับรูปแบบการทำตลาดเชิงรุก เจวีซีเตรียมจะเปิดตัวกล้องแคมคอร์ดเดอร์รุ่นใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้มากขึ้น ทั้งกลุ่มเซมิ-โปร ลูกค้าที่เปิดร้านสตูดิโอขนาดเล็ก หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยคุณภาพของฟลูเอชดีที่ใส่ลูกเล่นและฟังก์ชั่นใหม่ๆ ในราคาที่แข่งขันได้ และดึงให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
"ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาหลังเปิดตัวรุ่นใหม่แล้วยอดขายกล้องแคมคอร์ดเดอร์โตขึ้นกว่า 40% และจะเริ่มเอดูเคตตลาดให้ขยับจากกล้องรุ่นเบสิกเข้าสู่ตลาดฟลูเอชดีมากขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในตลาดแมสที่บางส่วนยังมีกำลังซื้ออยู่ เจวีซีได้ออกรุ่นพิเศษที่เป็นไฟติ้งโมเดลราคา 7,000-8,000 บาทมาเสริม โดยจะผลิต ออกมาจำนวนจำกัดเพียงลอตละ 400-500 ตัวเท่านั้น" นายวิบูลย์กล่าว
ที่มา: matichon.co.th