ทรู ดาต้าฯ ซุ่มผนึกพันธมิตรระดับโลก เปิดตลาดบริการดาต้า เซ็นเตอร์ผ่านเทคโนโลยี "คลาวด์ คอมพิวติง" คาดดีลสำเร็จกลางปีนี้
นายเจนวิทย์ คราประยูร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรูอินเตอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด (ทรู ไอดีซี) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะเน้นการลงทุนบริการใหม่ๆ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรระดับโลกในกลุ่มสื่อสาร เพื่อร่วมกันลงทุนเทคโนโลยี "คลาวด์ คอมพิวติ้ง" ให้บริการในดาต้า เซ็นเตอร์เป็นรายแรก เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มองค์กรชะลอการลงทุนโครงการใหม่ๆ
บริษัทมองว่า คลาวด์ คอมพิวติ้ง เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในต่างประเทศ และได้รับการทดสอบใช้งานว่าช่วยลดต้นทุนได้จริง ซึ่งเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะการใช้ในกลุ่มดาต้า เซ็นเตอร์ ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ประกอบกับประเทศไทย ยังไม่มีหน่วยงานใดพัฒนาเพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง
"คลาวด์ คอมพิวติ้ง เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมา ซึ่งลูกค้าแทนที่จะต้องซื้อเซิร์ฟเวอร์ หรือสตอเรจของตัวเอง ก็ไม่ต้องแล้ว เพราะเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่น ทำให้ลูกค้าไม่ต้องลงทุนทั้งหมด หรือถ้าอยากจะทดสอบระบบก็มาใช้บริการคลาวด์ ของดาต้า เซ็นเตอร์" นายเจนวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าจะสรุปข้อตกลงความร่วมมือได้ประมาณกลางปี และอาจเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงครึ่งปีหลังนี้
ขณะเดียวกัน ทรูฯ ยังมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์เพิ่มอีก 300 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2551 มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ในศูนย์ที่เมืองทองธานี และจะทำให้บริษัทมีพื้นที่ให้บริการรวมทั้งที่อาคารทรู ทาวเวอร์ ประมาณ 2,000 ตารางเมตร
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพื่อประกอบการตัดสินใจเข้าไปลงทุนธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ ที่ประเทศเวียดนาม เนื่องจากมีพันธมิตรจากสหรัฐฯ เข้าไปทำธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว โดยหากแนวโน้มภาพรวมตลาดดีขึ้นก็น่าจะเริ่มขยายตลาดให้บริการต่างประเทศได้ปีหน้า
"ทิศทางของทรูไอดีซีปีนี้ คงจะไม่ได้มองการจับมือกับพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อเจาะฐานลูกค้าในระดับโลกเหมือนกับกระแสตลาดช่วงนี้ เนื่องจากตัวบริษัทก่อตั้งขึ้นในลักษณะการร่วมทุนระหว่างทรู กับแอลจี ดาคอม ในเครือแอลจี กรุ๊ป ซึ่งเข้ามาร่วมถือหุ้น 30% ถือเป็นความได้เปรียบในตลาดกลุ่มสื่อสารอยู่แล้ว" นายเจนวิทย์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการซื้อ-ขายแบนด์วิธ กับพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งช่วยส่งเสริมในแง่การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเพียงพอต่อการให้บริการฐานลูกค้าส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ในประเทศ
อย่างไรก็ตาม สภาพตลาดในช่วงนี้ ส่งผลให้บริษัทเริ่มปรับลดเป้าเติบโตเหลือ 30-40% จากปีก่อนหน้าเติบโต 70%
ที่มา: bangkokbiznews.com