LG ARENA เทียบ iPhone S-Class UI หน้าจอสัมผัส 3 มิติ

[Reporter]

      เปิดตัวแล้วกับเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัสสุดล้ำ S-Class UI บน LG ARENA ระบบสัมผัสที่กำลังจะกลายเป็นผู้ท้าชิงบัลลังก์เจ้าทัชโฟนจาก iPhone ที่พร้อมจะพลิกประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่บนโครงสร้างแบบ 3 มิติ เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถหมุนเลือกใช้งานและจัดการเมนูต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
       
       ระบบหน้าจอสัมผัสบนโทรศัพท์มือถือปัจจุบัน iPhone ยังถือเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยความล้ำหน้าที่ผู้ผลิตรายอื่นๆ พยายามที่จะตามรอยแห่งความสำเร็จของไอโฟน จะเกิดการพาเหรดของทัชโฟนสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องจากบรรดาผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่สามารถลบภาพความเหนือชั้นของหน้าจอสัมผัสของไอโฟนได้
       
       แต่จากการเปิดระบบสัมผัสล่าสุด S-Class UI ของแอลจี กำลังจะกลายเป็นบทพิสูจน์ของผู้ท้าชิงเจ้าหน้าจอสัมผัสบนโทรศัพท์มือถือครั้งใหม่ที่สมน้ำสมเนื้อมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก S-Class UI ถือเป็นนวัตกรรมระบบปฏิบัติการขั้นสุดยอดของแอลจีที่ได้นำมาอยู่บนโทรศัพท์มือถือไฮไลต์แห่งปี LG ARENA โดยมีการเผยโฉมครั้งแรกที่งาน Mobile World Congress 2009 ที่ประเทศสเปน ก่อนที่จะเปิดตัวในยุโรปจนได้รับความนิยมอย่างมากและมียอดจองสูงกว่า 1 ล้านเครื่องไปแล้ว
       
       อะไรคือความพิเศษที่ทำให้ S-Class UI บน LG ARENA เป็นที่สนใจและได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างล้นหลาม คำตอบที่ได้คือประสบการณ์รูปแบบใหม่กับทัชโฟน เนื่องจากความพิเศษของ S-Class UI ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้โครงสร้างแบบ 3 มิติและการตอบสนองที่รวดเร็วต่อการสัมผัส โดยมีความโดดเด่นด้วยการออกแบบเมนูทรงลูกบาศก์ (Cube) และสามารถใช้ปลายนิ้วสัมผัสเพื่อหมุนเลือกใช้งานและจัดการเมนูต่างๆ ได้อย่างอิสระจากทั้ง 4 ด้าน และการทำงานของทุกฟังก์ชั่นถูกออกแบบให้มีสีสันและการตอบสนองที่รวดเร็ว รวมถึงการรองรับระบบสัมผัสแบบ Multi-touch ซึ่งจะให้รูปแบบการควบคุมด้วยปลายนิ้วแตกต่างไปจากระบบสัมผัสทั่วๆ ไปอย่างสิ้นเชิง โดยนอกจากการสั่งงานด้วยการสัมผัสแบบเดิมแล้วระบบนี้ได้เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมผ่านการสัมผัสแบบ 2 จุดเพื่อสั่งงานในอีกรูปแบบหนึ่งได้ง่ายดายมากขึ้น อาทิ การใช้ 2 นิ้วในการขยายหรือย่อรูปภาพควบคุมการเลื่อนหน้าจอแทน Scroll bar หรือใช้ขยายและย่อรูป
       
       นอกจากนี้การควบคุมการทำงานในแต่ละฟังก์ชั่นก็ได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละฟังก์ชั่นเพื่อสร้างความรู้สึกตอบสนองและการใช้งานที่สะดวกแก่ผู้บริโภค อาทิ ระบบเสียงแบบ Dolby sound ที่ดัง surround รอบทิศทางที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมวิดีโอ หรือภาพยนตร์ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องดิจิตอลที่หน้าจอจะได้รับการออกแบบให้มีปุ่มควบคุมเหมือนกับกล้อง SLR หรือฟังก์ชั่น MP3 จะถูกออกแบบให้หน้าจอเป็นตู้เพลง (Juke Box)
 
 
       S-Class UI ไม่เพียงแต่ให้ประโยชน์ใช้สอยที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์ความสนุกมากขึ้นอีกด้วยลูกเล่นกราฟิกสีสันสดใสที่มอบความรู้สึกการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวจริง อาทิ ภาพใน Floating Image Gallery จะเลื่อนออกไปนอกจอเมื่อโทรศัพท์ถูกวางในแนวนอน และเพิ่มความสะดวกในการค้นหาภาพด้วยการลากนิ้วจากบนลงล่างและข้ามไปสู่แฟ้มอื่นด้วยการลากนิ้วจากซ้ายไปขวา
       
       ที่สำคัญ LG ARENA ยังได้รับการพัฒนาระบบเสียง, เทคโนโลยีหน้าจอ และฟังชั่นการใช้งานมัลติมีเดียให้มีมาตรฐานใหม่ ซึ่งถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบ S-Class UI อย่างสมบูรณ์แบบ และจะกลายเป็นมาตรฐานการใช้งานสำหรับโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์ของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ในรุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย
       
       เฮียน วู (ฮาเวิร์ด) ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาโทรศัพท์มือถือแอลจีได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลกเป็นอย่างดีในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการออกแบบและการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้บนโทรศัพท์มือถือเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงในการใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งเป็นนโยบายของแอลจีที่มุ่งวิจัยและศึกษาถึงความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด
       
       'หน้าจอสัมผัส S-Class User Interface ที่ได้นำมาใช้เป็นครั้งแรกบนโทรศัพท์มือถือแบบหน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ LG ARENA เป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ของปี 2552 เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ของการใช้งานด้านมัลติมีเดียบนโทรศัพท์มือถือที่มีสีสันและลูกเล่นที่ล้ำสมัยมากขึ้น ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการใช้งานที่ง่ายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ'
       
       สำหรับการเปิดตัว LG ARENA ในประเทศไทยนั้น แอลจีเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า ( Pre-booking) เพื่อสัมผัสประสบการณ์มือถือมัลติมีเดียที่สมบูรณ์แบบที่สุดในวงการมือถือก่อนใครได้ที่ร้านเจมาร์ททุกสาขาทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 17-30 เมษายนนี้ ซึ่งผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าจะได้รับชุดอุปกรณ์เสริมพิเศษ อาทิ Speaker stand และอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 4,000 บาท ก่อนจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรกในเอเชียปลายเดือนเมษายนนี้

 


ที่มา: manager.co.th