Author Topic: “กฤษณ์” ยันยังไม่แตกหัก “มดดำ” เผย “มาช่า” เข้ารพ.ทำดีท็อกซ์ ปัดเครียดข่าวรักร้าว  (Read 939 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai





“กฤษณ์” เผยไม่ได้โกรธเคือง “มดดำ” ที่แฉเลิก “มาช่า” แต่อีกฝ่ายเก็บไปคิดมากเอง จนเครียดเข้าโรงพยาบาล ส่วน “มาช่า” เข้าโรงพยาบาลทำดีท็อกซ์ ปัดเครียดข่าวรักล่ม ยันยังรักและผูกพันกับนักร้องสาวอยู่ และเสียดายเวลา 6 ปีที่คบหากัน จะเสียใจถ้าอีกฝ่ายมีคนใหม่เข้ามา โอกาสรีเทิร์นยังบอกไม่ได้ พร้อมเคลียร์ “วีเจจ๋า” และภาพกับสาวอื่นไม่มีใครเป็นมือที่สาม
       
       ยังคงเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ สำหรับกรณีที่ดีเจปากจัด “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” ออกมาประกาศว่าคู่รักต่างวัย “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” และม่ายสาวพราวเสน่ห์อย่าง “มาช่า วัฒนพานิช” นั้นได้เลิกกันแล้ว หลังจากที่คบกันมายาวนานถึง 6 ปี แต่ “กฤษณ์” ได้ออกมาชี้แจงว่ายังไม่ถึงขั้นเลิกแฟนสาว แค่ตัดสินใจเว้นระยะห่างกันเท่านั้น เลยทำให้มีกระแสข่าวตามมาอีกระลอกว่า สองคู่ซี้ปากจัดเกิดทะเลาะกันอย่างหนัก จนทำให้ “มดดำ” ถึงกับเครียดต้องเข้าโรงพยาบาลเลยทีเดียว
       
       ซึ่งล่าสุดได้เจอตัว “กฤษณ์” อีกครั้งในงานเปิดตัว The Rink Grand Celebration ลานไอซ์สเก็ต ที่ชั้น G โซนฟอรั่ม เซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้โกรธหรือต่อว่าอะไร “มดดำ” เลย แต่อีกฝ่ายคงจะคิดมากจนเครียดไปเองมากกว่า
       
       “ผมว่ามดดำอาจจะคิดมากไปเองนะครับ แต่หลังจากที่ผมได้ออกมาพูดไปวันนั้น ผมก็ได้คุยกับเขาเคลียร์กันเรียบร้อยไม่มีอะไร แต่มดดำมันเป็นคนคิดมากไงครับ เขาอาจจะคิดมากไปเอง แต่ว่าผมไม่ได้มีอะไร คือผมก็ไม่ได้บอกเขาอย่ามายุ่งอะไรอย่างนั้น คือเขาก็มาถามผม ผมก็อธิบายไปว่าจริงๆ แล้วเราก็ยังไม่อยากใช้คำว่าเลิกเลยซะทีเดียว แค่หยุดความสัมพันธ์ของเราไว้ดีกว่า แต่ถ้าเกิดว่าวันนึงเราพร้อม เราก็อาจจะกลับมาคบกันใหม่ก็ได้ ก็เป็นอีกเรื่องนึง”
       
       “ผมก็ไม่ได้ติงเขานะครับ ผมไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ว่าอะไรมดดำเลย ซึ่งเขาก็ไม่ได้มาขอโทษ ประเด็นคือเขาคิดมากไปเอง แต่ผมไม่ได้มีอะไร ผมก็ไม่ได้มองเขายังไงนะ เพราะเรารู้จักมดดำอยู่แล้ว ผมเป็นคนที่รู้จักมดดำดีมาก เราอยู่กันมา 6-7 ปี ผมว่าเขาคิดมากไปเองมากกว่า ผมไม่ได้โกรธเขาครับ เขาเข้าโรงพยาบาลผมยังงงเลย หายไปเลย ส่วนคุณช่าโกรธไหมเหรอ คือปกติคุณช่าจะรู้ข่าวก็ต่อเมื่อมีคนไปบอก เพราะตัวเขาไม่ค่อยเสพข่าวอยู่แล้วครับ มดดำก็ไม่ได้โทรไปหานะเท่าที่ทราบ”
       
       “แต่อาทิตย์นี้ผมกับมดดำยังไม่ได้จัดรายการด้วยกันเลยครับ หลังจากที่มันลาป่วยหายไปเลย แต่อาทิตย์ที่แล้วก็ยังจัดด้วยกันปกตินะครับ แต่อาทิตย์นี้มดดำไม่ว่างมั้ง ผมไม่แน่ใจ เขาก็ลาไปจันทร์ถึงพุธ ส่วนผมก็ยังจัดอยู่ พรุ่งนี้ก็ยังจัด แต่ช่วงนี้ผมจะยุ่งนิดนึง เพราะผมต้องเปิดรายการไทยแลนด์ ก๊อต ทาเลนต์ ซึ่งอาทิตย์หน้าก็ต้องเดินทางไปอีกหลายจังหวัด ไปทั่วประเทศเลยครับ”
       
       “แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่จัดด้วยกัน มดดำก็ไม่ได้มีอาการสลดอะไรนะ คือเขาก็ยังถามผมออกรายการ ถามตรงๆ เลย ผมก็ไม่ได้มีอะไร ก็ตอบไปแบบเดียวกับที่ตอบพี่ๆ สื่อมวลชนนี่แหละ ความสัมพันธ์ของผมกับมดดำยังเหมือนเดิมครับ อย่าคิดมาก เราก็ยังจับคู่กันอยู่นะ อาทิตย์หน้าก็จัดคู่กันอีกแล้ว ผมก็บอกเขาไปหลายรอบแล้วว่าอย่าคิดมาก แต่มดดำเป็นคนขี้น้อยใจ คิดมาก”
       
       ส่วนสาเหตุที่อดีตหวานใจ “มาช่า” เข้าโรงพยาบาล ไม่ใช่เพราะเครียดเรื่องข่าว แต่เพราะเข้าไปทำดีท็อกซ์ล้างพิษ ซึ่งตนก็ไปด้วย
       
       “คุณช่าก็เข้าโรงพยาบาลเหรอครับ เข้ากันหมดเลยเหรอ ดีมากครับ เยี่ยมมาก (หัวเราะ) ก็ทราบข่าวแล้วครับ แต่จริงๆ ไม่มีอะไรหรอก คือเดี๋ยวนี้มันจะมีการล้างสารพิษ ล้างเลือดโลหะหนัก ตอนนี้เขาฮิตมากอย่างพวกดีท็อกซ์ คุณช่าก็ไปทำด้วย ทำประมาณ 2-3 ชั่วโมงเสร็จแล้วก็ออก แต่ข่าวกลายเป็นว่าเข้าโรงพยาบาล ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่เครียดจนเข้าโรงพยาบาลหรอก ผมก็ไปกับคุณช่านี่แหละ ไปด้วยกัน ก็ยังเป็นเพื่อนกัน”
       
       “แต่เมื่อวานที่เขามีข่าวว่าเข้าโรงพยาบาลไม่ได้เจอครับ แต่เราก็จะนัดกันไปทำพวกทรีทเม้นท์ ดีท็อกซ์เพื่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้งานเยอะ ผมว่าก็คงเป็นช่วงๆ ผมว่าทุกคนที่ทำงานไม่ว่าจะมีธุรกิจหรืออะไรก็แล้วแต่ จะมีช่วงชีวิตนึงที่เราควรจะทำอะไรเพื่ออนาคตของเรา ผมว่าก็คงจะอีกสักพักนึง ตอนนี้ก็อยู่อย่างนี้ไปก่อนดีกว่า”
       
       “สำหรับผมกับคุณช่า ผมยังไม่อยากบอกว่าอนาคตเรามีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์รีเทิร์น ใช่ไม่ใช่นะครับ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติแล้วกัน เพราะผมก็พูดตลอดนะ หลายคนก็กะเกณฑ์ว่าเราจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่งงานกันเลิกกันบ้างอะไรก็แล้วแต่ ผมว่าเราอย่าไปกะเกณฑ์สิ่งพวกนี้เลย บางทีเราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถามว่าตอนนี้ยังรักคุณช่าอยู่ไหม คือเราก็ผูกพันนะครับ เราคบกันมาตั้ง 6 ปี ส่วนตัวผมก็ยังเป็นห่วง และยังรักคุณช่าอยู่ครับ”
       
       ยอมรับเสียดายเวลา 6 ปีที่คบกันมา และตนก็เสียใจถ้าอดีตแฟนจะไปมีคนใหม่
       
       “จะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม ผมว่ากว่าที่เราจะมาถึงจุดนี้ ผมกับคุณช่าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว เราคงต้องคุยกันดีแล้ว ไม่ใช่ว่าทะเลาะกันแล้วก็เลยเลิกกัน เราไม่ใช่อย่างนั้น คงเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตมากกว่า แล้วเราก็เห็นแล้วว่ามันเป็นปัญหาจริงๆ เราก็เลยคุยกันว่าเราจะแก้ปัญหายังไง และสิ่งที่เราสองคนตัดสินใจก็เป็นการที่เราคิดว่า น่าจะเป็นจุดที่มันดี ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงก็ต้องติดตามตอนต่อไป ผมก็รู้สึกดีนะครับ กับคนที่ยินดีกับการที่ผมกับคุณช่าคบกัน แต่ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้ว เราก็คงจะต้องอยู่กับมันอย่างนี้ไปก่อน ภายภาคหน้าจะเป็นยังไงก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน”
       
       “เสียดายเวลา 6 ปีไหม เสียดายสิครับ เราคบกันมานาน ผมก็ไม่อยากไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เริ่มอะไรใหม่ๆ แต่เราก็ไม่สามารถกะเกณฑ์อนาคตได้ แต่ถามว่าพร้อมเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆ ไหม เราก็ไม่ได้บอกว่า เราจะเปิดโอกาสซึ่งกันและกันนะครับ แต่ว่าถ้าเกิดมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ถ้าถามผมจริงๆ มันก็ต้องเสียใจแหละ จะบอกว่าไม่เสียใจเลยมันก็เป็นไปไม่ได้หรอก อาจจะจี๊ดๆ แต่สำหรับผมก็ไม่เคยกะเกณฑ์ว่าเปิดหรือปิดตัวเอง ถ้าวันนึงเจอใครสักคนนึง มันก็คงจะต้องเจอ กลับมาเป็นคาสโนว่าเหรอ ไม่หรอกครับ คือข่าวต่างๆ มันก็คงมีออกมา แต่ผมไม่ได้สนใจหรอก แล้วก็สาวที่ชื่อแอปเปิ้ลไม่มีครับ ไม่มีแน่นอน”
       
       ยืนยันความสัมพันธ์กับวีเจสาว “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” เป็นแค่เพื่อนกัน และต่อไปอาจมีภาพคู่กันออกมาบ่อย เพราะต้องทำงานด้วยกัน
       
       “ภาพที่ผมไปกินข้าวกับจ๋า คือจ๋าไม่ได้เป็นมือที่สามหรอกครับ ผมกับจ๋ารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว ผมรู้จักจ๋าตั้งแต่ผมอายุ 18 รู้จักกันมานานมาก ไม่ใช่มือที่สามแน่นอน และตอนนี้ผมกับจ๋าทำธุรกิจร่วมกันด้วย ก็อาจจะเจอกันบ่อยมากขึ้น ต่อไปก็อาจจะมีภาพผมกับจ๋าออกมา ภาพผมกับผู้หญิงอื่นๆ บางทีก็เป็นลูกน้องเป็นทีมงานบ้าง จะให้เป็นเมียให้หมดเลยใช่ไหม (หัวเราะ) อยู่กับผู้หญิงไม่ได้เลย ต้องเป็นเมียหมดเลย”
       
       “ก็คงไม่ระวังตัวมากขึ้น ส่วนตัวผมเป็นคนสบายๆ อยู่แล้ว จะไปไหนเราก็เดินเปิดเผย ก็ไม่ได้กลัวว่าความสัมพันธ์ของผมกับคุณช่าจะยิ่งห่างขนาดนั้นนะครับ ผมว่าตอนนี้เราเป็นอย่างนี้ เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็น เพราะเราต้องทำงานเยอะ ตอนนี้ผมก็ทำหลายอย่าง ไม่ใช่ว่าเลือกงานก่อนหรอก ผมว่าเป็นการจัดแจงงานและชีวิตส่วนตัว ให้มันลงตัวมากกว่า เราไม่ได้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คนเราไม่สามารถอยู่ได้ด้วยงานอย่างเดียวหรือรักอย่างเดียวได้”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)