"ริม"เมินพัฒนาแอปฯ ระบบปิดแบบแอปเปิล

[Nick]

Jim Balsillie ผู้ร่วมก่อตั้งริม ขณะกล่าวต่อนักพัฒนาในงานประชุม Web 2.0 Summit

ผู้ร่วมก่อตั้งริม (Research In Motion) ค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์สัญชาติแคนาดาอย่างแบล็กเบอรี่ ให้สัมภาษณ์ว่าริมไม่เห็นด้วยกับระบบพัฒนาแอปพลิเคชันแบบปิดซึ่งแอปเปิลใช้คุมเข้มนานาแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตระกูลไอ ทั้งไอพ็อดทัช ไอโฟน และไอแพด ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่รับกับข่าวการเปิดให้บริการโปรแกรม Google Voice อย่างเป็นทางการบนร้าน App Store ซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อความขัดแย้งในระบบปิดอันแสนเข้มงวดของแอปเปิล
       
       Jim Balsillie ผู้ร่วมก่อตั้งริม ให้สัมภาษณ์ว่าระบบการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับแบล็กเบอรี่ในขณะนี้เปิดเสรีให้นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมภาษาดั้งเดิมของแบล็กเบอรี่ รวมถึงสามารถพัฒนาบน Adobe AIR SDK แก่ผู้ใช้แท็บเล็ตพีซี BlackBerry PlayBook ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดด้วย
       
       สิ่งที่เกิดขึ้นสวนทางกับระบบการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบปิดของแอปเปิล ที่กำหนดให้นักพัฒนาต้องทำตามเงื่อนไขซึ่งแอปเปิลเป็นผู้บัญญัติขึ้นอย่างเคร่งครัด ระบบนี้เองที่ทำให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันไอโฟนหรือไอแพดไม่สามารถใช้เทคโนโลยีของอโดบีได้
       
       Balsillie กล่าวต่อนักพัฒนาในงานประชุม Web 2.0 Summit ว่านักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือสู่โลกอินเทอร์เน็ตได้อยู่แล้วโดยที่ไม่จำเป็นต้องถูกควบคุมชุดเครื่องการพัฒนาหรือ SDK ที่ใช้ แถมย้ำว่านักพัฒนาไม่จำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชันเพื่อดึงผู้บริโภคให้ใช้งานเว็บไซต์ด้วยซ้ำ ทั้งหมดสื่อว่า ผู้บริหารริมไม่เห็นด้วยที่นักพัฒนาฯโลกจะเดินตามเป็นรูปแบบ "ให้แอปพลิเคชันเป็นศูนย์กลาง" อันเป็นรูปแบบการเชื่อมต่อบนอุปกรณ์แอปเปิลมาตลอด

ลักษณะการทำงานของ Google Voice บนไอโฟน

ความเห็นของผู้บริหารริมเกิดขึ้นพร้อมกับข่าวแอปพลิเคชัน Google Voice ของแอปเปิลสามารถเปิดให้บริการบนร้าน App Store อีกครั้ง หลังจากแอปเปิลเคยปฏิเสธไม่อนุมัติให้โปรแกรม Google Voice เผยแพร่บนร้านแอปสโตร์ของแอปเปิล โดยกูเกิลระบุว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวจะสามารถใช้งานบนอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 3.1 ขึ้นไป และสามารถใช้งานในสหรัฐฯเท่านั้นในขณะนี้
       
       แม้จะเป็นข่าวการให้บริการแอปพลิเคชันธรรมดา แต่ข่าวนี้กลับได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจาก Google Voice คือหนึ่งในเหยื่อมากมายของระบบการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบปิดซึ่งมีแอปเปิลเป็นผู้กุมอำนาจสิทธิ์ขาด
       
       ต้นเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แอปเปิลประกาศไม่อนุมัติให้ Google Voice เปิดให้บริการดาวน์โหลดบนร้านแอปสโตร์ ซึ่งเป็นแหล่งโหลดแอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้ไอโฟนแบบถูกกฏหมายทุกเครื่อง โดยอ้างว่ามีฟีเจอร์บางส่วนคล้ายคลึงกับแอปพลิเคชันที่แอปเปิลมีอยู่แล้ว
       
       แต่นักสังเกตการณ์กลับวิจารณ์ว่า Google Voice คือหนึ่งในหลายแอปพลิเคชันโทรศัพท์ราคาถูกผ่านอินเทอร์เน็ตที่ถูกแอปเปิลดองเค็ม ด้วยการให้ไฟแดงไม่อนุมัติให้เผยแพร่ ซึ่งทั้งหมดเชื่อกันว่าอาจมาจากความกังวลของเอทีแอนด์ที (AT&T) โอเปอเรเตอร์ตัวแทนจำหน่ายรายเดียวของไอโฟนในสหรัฐฯก็ได้
       
       กรณีที่เกิดขึ้นเข้าข่ายจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้แบบผิดปกติ แอปเปิลจึงชี้แจงต่อคณะกรรมการการค้าแห่งชาติสหรัฐฯหรือ FCC ว่ายังไม่ได้ปฏิเสธโปรแกรม Google Voice อย่างเป็นทางการ แต่จะศึกษาอย่างละเอียดว่าโปรแกรมจะมีผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับกูเกิลวอยซ์นั้นไม่ได้ถูกแทรกแซงจากเอทีแอนด์ทีแต่อย่างใด
       
       เหล่านี้ต่างจากระบบการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบเปิดในสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการอื่นเช่นแอนดรอยด์หรือแบล็กเบอรี่ เนื่องจากนักพัฒนาจะไม่ถูกควบคุมการพัฒนาเข้มงวดเท่าแอปเปิล
       
       GV หรือ Google Voice นั้นมีจุดเด่นที่ผู้ใช้จะสามารถรับโทรศัพท์จากหลายเบอร์โทรในเวลาเดียวกัน ด้วยความเป็นโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตทำให้ผู้ใช้สามารถประหยัดค่าโทรศัพท์ข้ามประเทศได้มาก ซึ่งนอกจากไอโฟน กูเกิลยังพัฒนา GV เพื่อรองรับแบล็กเบอร์รี่ (BlackBerry) และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่กูเกิลพัฒนาขึ้นด้วย
       
       นักสังเกตการณ์ยังเชื่อด้วยว่า การยอมอนุมัติให้ Google Voice เผยแพร่บนแอปสโตร์ครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะการประกาศผ่อนคลายกฏระเบียบการเผยแพร่แอปพลิเคชันบน App Store ของแอปเปิลเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ระบบพัฒนาแอปพลิเคชันแบบปิดที่ไม่มีความเสรีสมชื่ออเมริกัน
       
       Company Related Link :
       Apple
       RIM
       Google

ที่มา: manager.co.th