Author Topic: แม่เผยเอง "ไมเคิล แจ็คสัน" เสพติดศัลยกรรม  (Read 2039 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


แม้ตัวจะจากไปแต่เรื่องราวของ"ไมเคิล แจ็คสัน"ซูเปอร์สตาร์ดังระดับโลกยังคงเป็นเรื่องราวที่หลายๆคนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดฝ่ายพ่อและแม่เดินทางไปออกรายการของ "โอปราห์" ยอมรับเรื่องลูกเสพติดศัลยกรรมแถมเผยถึงบทลงโทษของผู้เป็นพ่อที่ชอบทุบตีลูกด้วย
       
       แคทเธอรีน แจ็คสัน แม่ของไมเคิล ได้พูดเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาผ่านทางรายการของโอปราห์ วินฟรีย์ถึงการเปลี่ยนลุคเปลี่ยนสีผิวของลูกชาย โดยระบุว่าครั้งแรกที่ลูกชายตัดสินใจทำศัลยกรรมเนื่องมาจากโรคทางผิวหนัง Vitiligo เป็นหลัก เพราะเจ้าตัวไม่อยากดูเหมือนวัวที่มีลายด่างเต็มตัว
       
       "เขาไม่อยากดูด่างเหมือนวัว ฉันไม่รู้ว่าอะไรในโลกที่ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นแบบนั้นได้ แต่เขาก็ทำไปแล้ว"
       
       ไมเคิลเป็นที่พูดถึงอย่างมากในเรื่องการศัลยกรรมว่าเขานั้นผ่านการนอนใต้มีดหมอมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการทำศัลยกรรมจมูกด้วย ซึ่งหลังจากที่เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลูปัส หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง และ โรคด่างขาว ทำให้เขาเข้ารับการรักษาหลายต่อหลายครั้งเพื่อหาวิธีดูแลผิวที่บอบบางของเขาซึ่งสิ่งนี้เองได้ทำให้เขาเปลี่ยนจากคนผิวสีเป็นคนผิวขาวไปโดยปริยาย
       
       ในปี 1993 ไมเคิลอ้างว่าตัวเขาผ่านการทำศัลยกรรมมาแค่ 2 ครั้งเท่านั้นในชีวิต แต่งานนี้ด้านแคทเธอรีนปฏิเสธอย่างหนักพร้อมเผยความจริงทั้งหมด
       
       "เขาทำมากกว่า 2 ครั้งแน่นอน แต่ที่เขาไม่พูดเป็นเพราะเขาอาย ฉันเคยได้ยินว่ามีคนเสพติดศัลยกรรม และฉันคิดว่าไมเคิลเองก็เป็นแบบนั้น ฉันเคยบอกเขาว่าให้พอได้แล้ว"
       
       นอกจากนั้นในการออกรายการครั้งนี้ โจ พ่อของไมเคิลก็มาร่วมรายการด้วย ซึ่งในระหว่างการให้สัมภาษณ์แคทเธอรีนพยายามให้เขายอมรับความจริงเรื่องที่เขาทุบตีไมเคิลรวมถึงลูกๆทั้ง 9 คนด้วย
       
       โดยโอปราห์ได้ถามเขาเกี่ยวกับการลงโทษลูกๆ เขาได้ตอบปฏิเสธออกมาก่อนที่แคทเธอรีนจะพูดโพล่งออกมาว่า "คุณควรจะยอมรับไปเลยดีกว่านะว่านั่นเป็นวิธีการเลี้ยงดูลูกของคนดำ เขาเคยใช้แส้ฟาดลูกด้วย"
       
       ซึ่งโจรีบกล่าวปกป้องตนเองว่า "ผมไม่เสียใจที่ตีพวกเขา มันเป็นการปกป้องพวกเขาและทำให้พวกเขาไม่ต้องไปนอนในคุกและให้พวกเขาเดินในทางที่ถูก"
       
       นอกจากนั้นแคทเธอรีนยังพูดถึงยาโปรโปฟอลของไมเคิลที่เป็นตัวพรากชีวิตเขาไปและความรู้สึกเมื่อตอนทราบข่าวร้ายการจากไปของลูกชายเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ปีที่แล้วด้วย
       
       "ฉันเคยพูดกับไมเคิลมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ฉันได้รู้เรื่องยาชนิดนี้ของเขา แต่ว่าเขาปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ ฉันเลยบอกเขาว่า วันหนึ่งฉันไม่อยากได้ยินข่าวว่าเขาได้รับยาเกินขนาดเพราะมันจะทำให้ฉันใจสลาย เขาเลยเอาแต่พูดว่า 'แม่ผมยังไม่เชื่อผมเลย' ส่วนหนึ่งในตัวฉันอยากจะเชื่อเขาแต่ฉันไม่เชื่อ"
       
       "ในวันที่เขาจากไป มันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของฉันแล้ว มันใจหาย ฉันรู้สึกแบบนั้น ฉันได้แต่ภาวนาว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น ฉันไม่อาจกล่าวหาว่าเป็นการฆาตกรรมของ ดร.เมอร์เรย์ ฉันไม่รู้ว่านั่นเป็นอุบัติเหตุหรือว่าตั้งใจ ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ฉันคิดแต่ว่าตัวฉันเองไม่มีทางรักษาหายเพราะฉันเจ็บเหลือเกิน"



ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6618 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
5335 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
4331 Views
Last post May 03, 2009, 05:52:53 PM
by IT
0 Replies
3075 Views
Last post August 28, 2009, 09:43:46 AM
by IT
0 Replies
6165 Views
Last post June 10, 2010, 02:08:06 PM
by Nick
0 Replies
4178 Views
Last post July 16, 2010, 10:18:47 PM
by Nick
0 Replies
3139 Views
Last post August 27, 2010, 04:28:08 PM
by Nick
0 Replies
5571 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
4873 Views
Last post October 21, 2010, 10:23:15 PM
by Nick
0 Replies
7137 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick