Author Topic: โนเกียหนุนกองทัพสมาร์ทโฟน กระตุ้นนักพัฒนาผลิตแอปฯ ไทยลงโอวีสโตร์  (Read 1341 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ที่ 2 จากซ้าย - ชูมิท คาพูห์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) - โนเกียกระตุ้นนักพัฒนาไทยสร้างสรรค์แอปพลิเคชันลงโอวี่ สโตร์ ผ่านบริการฟอรัมโนเกีย ชูจุดขายทำฟรี-รวดเร็ว 15 นาทีเสร็จ ประเดิมดึงเนชันและสนุกออนไลน์ร่วมแจมสร้างแอปฯ เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน

     โนเกียเติมกองกำลัง หวังครองเบอร์หนึ่งตลาดสมาร์ทโฟนต่อในช่วงสงครามผลไม้ กระตุ้นนักพัฒนาสร้างแอปฯ ไทยผ่านโนเกียฟอรัม ชูจุดขายทำแอปฯ ส่วนตัวฟรี ใช้เวลาเร็วสุด 15 นาที พร้อมเปิดตัวโนเกีย C7 หวังต่อยอดสมาร์ทโฟนซิมเบียน 3 และ Nokia Experience Studio แหล่งพบปะแห่งใหม่ของผู้ใช้งานโนเกีย
       
       ชูมิท คาพูห์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าในไตรมาสสุดท้ายของปี 53 โนเกียเริ่มให้ความสำคัญกับบริการ ฟอรัม โนเกีย มากยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากต้องการเพิ่มจำนวนแอปพลิเคชันไทยในโอวี่ สโตร์ให้มีจำนวนมากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงาน หรือบุคคลที่สนใจมีแอปพลิเคชันสำหรับโทรศัพท์มือถือโนเกียบนโอวี สโตร์ ได้เข้ามาใช้บริการในฟอรัม โนเกีย ซึ่งทางโนเกียประเทศไทยจะเป็นตัวกลางในการประสานงานกับต่างประเทศ ในการสร้างแอปพลิเคชัน
       
       "เราต้องการให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนคนไทย มีโอกาสใช้งานแอปฯของไทยมากขึ้น โดยเราจะให้บริการฟรีสำหรับผู้ที่สนใจ แต่ลูกค้าอาจต้องเสียค่าบริการในส่วนของการครีเอชัน ซึ่งถ้าเป็นการทำแอปฯจากเว็บฟีดธรรมดา ก็ใช้เวลาเพียง 15 นาทีหลังจากการลงทะเบียน สำหรับองค์กร หรือบุคคลที่มีเว็บบล็อกเป็นของตัวเอง แล้วต้องการมีแอปฯ เพื่อแชร์ความรู้ หรือเรื่องราวให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนรายอื่น ก็สามารถสมัครเข้ามาใช้บริการได้ โดยเลือกได้ว่าจะทำเป็นฟรีแอปฯ หรือเก็บเงิน"
       
       ชูมิทกล่าวว่า ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ณ ตอนนี้ผู้ใช้งานในเมืองไทยสามารถซื้อแอปฯจากโอวี่ สโตร์ โดยจะคิดค่าใช้จ่ายผ่านโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย ทั้งใช้งานรายเดือน และเติมเงิน โดยหน้าจอโอวีสโตร์จะแสดงผลเป็นเงินบาท เพื่อให้ง่ายต่อการชำระเงิน
       
       พร้อมกันนี้โนเกียยังได้มีการเปิดตัว Nokia C7 สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการซิมเบียน3 ตัวที่ 2 ในประเทศไทย หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเปิดจอง Nokia N8 ไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา
       
       Nokia C7 เป็นโทรศัพท์ที่เน้นการดีไซน์เป็นหลัก ด้วยขนาดตัวเครื่องที่บางเพียง 10.5 มม. มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และไฟแฟลชแบบคู่, หน้าจอ AMOLED แบบสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว รวมถึงการพัฒนาระบบ Social Client ที่มีการอินทริเกตรายชื่อผู้ติดต่อเข้ากับฟีเจอร์ต่างๆ บนโทรศัพท์ อาทิ เฟซบุ๊ก อีเมล์ และโปรแกรมแชตต่างๆ โดยวางจำหน่ายในราคา 13,950 บาท
       
       นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nokia Experience Studio บนชั้น 3 ของห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ซึ่งถือเป็นสตูดิโอแห่งแรกในเมืองไทย ที่ต้องการใช้เป็นแหล่งพบปะผู้ใช้งานใช้โทรศัพท์มือถือโนเกีย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาสัมผัส และเรียนรู้การใช้งานอุปกรณ์สื่อสาร และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของโนเกีย โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้ข้อมูล คำแนะนำ และตั้งค่าตัวเครื่องต่างๆ
       
       "เราต้องการใช้พื้นที่ส่วนนี้ เป็นตัวเชื่อมโยงผู้ใช้งานให้เข้ามาใกล้ชิดกับโนเกียมากขึ้นกว่าเดิม โดยเราจะมีเครื่องดื่มไว้คอยบริการ อีกทั้งในทุกๆ เสาร์-อาทิตย์จะมีการเชิญลูกค้ามาร่วมเวิร์กช๊อปสินค้า และบริการใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ"
       
       ที่ผ่านมาโนเกียนั้นพยายามจะนำเสนอโซลูชันให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยพยายามจะนำแอปฯโซลูชันที่อยู่บนสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ลงมาไว้บนโทรศัพท์มือถือระดับล่าง เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ของโนเกียได้อย่างทั่วถึง ในโดยในปี 53 โนเกียครองตำแหน่งเจ้าแห่งสมาร์ทโฟน ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 18% และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสูงถึง 30% ในปี 54
       
       ชูมิทกล่าวทิ้งท้ายว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 53 ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 54 ผู้ใช้งานจะมีโอกาสได้สัมผัสสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียน 3 อีก 2 รุ่นคือ C6-01 และ E7 นอกจากนี้ในปี 54 โนเกียยังมีแผนจะนำเข้าโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MeeGo ซึ่งคาดว่าประเทศไทยจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้มีโอกาสได้สัมผัสสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการใหม่นี้


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)