"พีดี เรดิโอ" ทุ่มงบ 60 ล้านจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวคลื่น “90 รวมมิตรเรดิโอ” และ “98 PYNK” อย่างยิ่งใหญ่อลังการ เชิญศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ไทย-เทศ “เอนริเก้-ซูเปอร์จูเนียร์-ซีเอ็นบลู-ทาทา-กอล์ฟไมค์” โชว์ฟรีคอนเสิร์ตเอาใจแฟนเพลง ผู้บริหารหนุ่มเมินถูกมองเปิดตัวแรงเพราะฟอกเงิน แจงทำธุรกิจอีเว้นท์เป็นหลักเลยมีเงินซัพพอร์ท
ผู้บริหารหนุ่ม "เอ็น วันธนบดี จิตตานุเคราะห์" จากบริษัท “พีดี ครีเอชั่น” ผู้ผลิต 2 คลื่นวิทยุใหม่ “90 รวมมิตรเรดิโอ” คลื่นเพลงดัง ฟังเพลงฮิตหลากสไตล์ที่คุณคาดไม่ถึง และ “98 PYNK” คลื่นวัยรุ่นรวมทุกเพลงที่ปิ๊งที่สุด ในนาม “พีดี เรดิโอ” ทุ่มงบ 60 ล้านจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวคลื่นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมจัดคอนเสิร์ตฟรีตลอดงานสำหรับแฟนๆ รายการวิทยุ ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ช่วงเย็นวานนี้ (5 พ.ย.) หลังทั้งสองคลื่นได้ทำการออนแอร์อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งงานนี้เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวคลื่นวิทยุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนก็ว่าได้ เพราะได้ทั้งศิลปินไทยหล่อขั้นเทพอย่าง "โดม ปกรณ์ ลัม" มาเปิดแผ่นเป็นการเปิดงานคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ และยังได้นักร้องระดับซูเปอร์สตาร์อย่างคู่ดูโอพี่น้อง "กอล์ฟ - ไมค์", "ซานิ เอเอฟ6" , "อมิตา ทาทา ยัง" ที่มาแบทเทิ้ลร้องเพลงกับ "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" และที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดงานต้องยกให้วง "โปงลางสะออน" มาร่วมโชว์บนเวทีอิมแพคฯ อีกด้วย
แต่ที่เป็นไฮไลท์ระดับบิ๊กเห็นจะเป็นการสั่งตรงนักร้องซูเปอร์สตาร์จากต่างประเทศ อย่าง "เอนริเก้ อีเกลเซียส (Enrique lglesias)" รวมไปถึงบอยแบนด์ขั้นเทพจากเกาหลี "ซูเปอร์จูเนียร์ (Super junior)" และ "ซีเอ็นบลู (CN Blue)" ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวกแดนกิมจิไปได้ตลอดทั้งงาน เพราะเพียงแค่ศิลปินคนใดเอ่ยคำว่าเกาหลีเพียงคำเดียวก็ได้เสียงกรี๊ดลั่นฮอลล์ ทำเอาผู้ที่เข้าไปร่วมชมงานถึงกับอุดหูแทบไม่ทัน
โดยก่อนที่จะเริ่มการแสดงคอนเสิร์ต ผู้บริหารหนุ่ม "เอ็น วันธนบดี จิตตานุเคราะห์" ได้เผยถึงการจัดงานเปิดตัวทั้งสองคลื่นวิทยุดังว่า
"มันไม่ใช่การเริ่มต้น ของเราเปิดได้ทุกเพลงทุกค่าย ไทยและต่างชาติ ทั้งลูกทุ่ง สตริง ทุกอย่างครับ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะในปี 2011 เราต้องการนำเสนออะไรที่เยอะมาก ก็ต้องขอบคุณศิลปินแต่ละคนด้วย ไม่ว่าจะเป็นศิลปินไทยหรือต่างประเทศ ถ้าถามว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในการเปิดคลื่นวิทยุก็พูดได้ครับ เพราะว่าเราอยากทำอะไรที่ตอนนี้ให้เป็นมากกว่าวิทยุ มันต้องมีในส่วนผสมอะไรแปลกๆ เข้ามาแน่นอน มันจะสนุกขึ้น เพราะตราบใดที่คนยังฟังเพลง ฉะนั้นเราน่าจะมีอะไรที่แปลกๆ ใหม่ๆ ให้กับคนฟังเหมือนกัน วันนี้เราเข้ามาก็อยากให้เอเจนซี่มีอะไรใหม่ๆ ไปเล่นกับลูกค้าเหมือนกัน ในวันนี้ทุกอย่างที่เห็นเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มจริงๆ"
"ถ้าถามถึงเรื่องความแตกต่างในคลื่นของเรา คือปกติแล้วคลื่นวิทยุต้องมีเรื่องทริป แต่ที่นี่เป็นที่แรกที่เราจะให้คุณเลือกทริปได้เอง คนฟังเป็นคนกำหนดอยากไปไหน เรามีเงินพ็อกเก็ตมันนี่ให้ และที่สำคัญคืออยากได้ผู้ชายในฝันคนไหนชี้มา เราจะพาไปด้วย แล้วในส่วนที่สำคัญในส่วนของคลื่นปิ๊ง น้องๆ ที่เป็นดีเจเป็นเด็กวัยรุ่น สิ่งที่น่าจะเหมาะกับน้องๆ คือเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับน้องๆ ให้น้องมีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น ประสบการณ์ของน้องๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น คือการไปดูเลดี้ กาก้า ซึ่งบัตรทริปนี้เต็มไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายทริปที่ยังไม่ได้เปิดครับ ซึ่งเร็วๆ นี้จะเปิดแถลงอีกรอบ แต่เราไม่ได้คิดที่จะแข่งขันกับใครนะครับ แค่หาสิ่งแปลกใหม่ให้กับผู้ฟัง"
"เรื่องงบในการจ้างดีเจ ก็เป็นเลขหลายหลักครับ เป็นเลข 7 หลัก แต่ก็รวมกันหลายๆ คน เลขหลายๆ หลักอาจจะเปิดเผยไม่ได้ เพราะว่ามันอาจจะกระทบในตัวศิลปินเอง แต่ว่า 7 หลักขึ้นครับ ที่เรายอมทุ่มเพราะว่าผมอยากให้เป็นสีสันใหม่ แต่ก็แน่นอนว่าการขายในบ้านเรา ก็ต้องมีการขายที่แปลกออกไป เราถึงจะจ้างในส่วนของตัวดีเจมาร่วมงานกับเราได้ แต่ผมก็มองว่ามันเป็นสีสันครับ เพราะถ้ามันเป็นแบบเดิมผมมองว่ามันไม่ดีนะ ผมว่ามันไม่แปลก และก็ไม่มีอะไรไปเล่น ตอนนี้ผมกำลังหาของเล่นแปลกๆ ให้ครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องงบในการจัดงานก็ประมาณ 60 ล้านบาท และเรื่องการจัดทำทั้งสองคลื่น ในส่วนของเครื่องมือเทคนิคอุปกรณ์ต่างๆ ก็ 100 ล้าน ในส่วนของการทำพีอาร์ก็อีก 150 ล้าน แต่ยังไม่รวมในการทำกิจกรรมต่างๆ ของแต่ละคลื่น"
ส่วนกรณีถูกมองเปิดตัวแรงเกินไปจนโดนเมาท์ฟอกเงิน เจ้าตัวแจงธุรกิจหลักคือการจัดงานอีเว้นท์ ซึ่งมาคอยซัพพอร์ทธุรกิจทำคลื่นวิทยุ
"จริงๆ ในงานเพลงผมอาจจะหน้าใหม่ แต่ถ้าในงานอีเว้นท์ผมหน้าไม่ใหม่เลยนะ เพราะผมทำอีเว้นท์มาหลายปีแล้ว และธุรกิจอีเว้นท์ก็ยังเป็นธุรกิจหลักๆ ต้องออกตัวไว้ก่อน บางคนอาจจะคิดว่าธุรกิจวิทยุตอนนี้อาจจะไม่ค่อยหอมหวานในช่วงนี้ แต่ว่าเราโชคดีว่าธุรกิจหลักของเราคืออีเว้นท์ เราทำในส่วนนี้มันก็จะไม่หนักทีเดียว และทุกวันนี้เราก็ยังมีรายการเฉลิมพระเกียรติเล็กๆ ในทีวีอยู่ คือทุกอย่างนี้มันคอยซัพพอร์ทกันอยู่ครับ"
ผู้บริหารหนุ่ม "เอ็น วันธนบดี จิตตานุเคราะห์"
ที่มา: manager.co.th