ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 เม.ย. 52) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ร่วมกับ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดตัวบริการเสียงเพลงรอสาย (Ring Back Tone) แก่ผู้ใช้บริการดีแทคและแฮปปี้ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายเสียงเพลงรอสายรูปแบบใหม่ ภายใต้บริการ “ขบวนการเหมา *339” ดาวน์โหลดและเปลี่ยนเพลงรอสายของศิลปินอาร์เอสไม่จำกัด ด้วยอัตราค่าบริการ 20 บาท/เดือน
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมกับ อาร์เอสดิจิตอล ขยายตลาดเสียงเพลงรอสายให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจาก ตลาดริงแบ็คโทนยังสามารถเติบโตและขยายตัวต่อไปได้ ทั้งจำนวนผู้ใช้บิรการและปริมาณการดาวน์โหลด เชื่อว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการรุกตลาดเชิงลึก เพื่อตอบโจทย์การสร้างรายได้และความคุ้มค่าแก่ผู้บริโภค ในอนาคต จะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงธุรกิจเพื่อประสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจโทรคมนาคมและบันเทิง ทำให้เกิดช่องทางในการเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ด้วยความรู้และความชำนาญในการออกแบบสินค้า บริการ และการนำเสนอ รวมถึง การทำ CRM (Customer Relationship Management) ที่ทั้ง 2 บริษัท จะร่วมมือกัน ตั้งแต่การเริ่มต้น วิเคราะห์ และกำหนดเป้าหมายเพื่อเข้าถึงลูกค้าอย่างชัดเจน
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ ของดีแทค กล่าวต่อว่า ในปี 2551 บริการเสียงรอสาย Ring4U ของดีแทคมีลูกค้าประมาณ 3.4 ล้านคน จากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด 18.7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของบริการเสริมทั้งหมด จากจำนวนการดาวน์โหลดกว่า 11.2 ล้านเพลง คิดเป็นรายได้ถึง 1,571 ล้านบาท เห็นได้ว่า ผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวยังสามารถเติบโตและขยายตัวต่อไปได้ และยังสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเปลี่ยนเพลงบ่อยขึ้น จากเดิมที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนเพลง เฉลี่ยเดือนละ 1 เพลง อาจเพิ่มเป็น 4-5 เพลงต่อเดือน
นายธนา กล่าวอีกว่า ดีแทคตั้งเป้าขยายรายได้จากบริการเสริม ในปี 2552 ไว้ที่ 9,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2551 มีรายได้รวม 7,000 ล้านบาท เชื่อว่าโมเดลธุรกิจดังกล่าวเป็นโมเดลแบบครบวงจรที่มีโอกาสเติบโตสูง และเป็นที่นิยมของลูกค้าได้ไม่ยาก เนื่องจาก มีราคาต่ำและสามารถดาวน์โหลดได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ ผลประกอบในไตรมาสที่ 1 ในปีนี้ ของอุตสาหกรรมดังกล่าวก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้สภาพเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ในปี 2552 นี้ บริษัทฯ จะมีรายได้จากบริการเสริมเพิ่มขึ้น จากเดิม 11% เป็น 14% เนื่องจาก บริการเสริมต่างๆ โดยเฉพาะบริการ Ring4U ก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“หลังจากที่บริษัทฯ ร่วมมือกับอาร์เอสออกบริการขบวนการเหมา จะมีบริการดาวน์โหลดอื่นๆ ตามมา โดยใช้งบการลงทุนให้คุ้มค่าและต่ำที่สุด ขณะเดียวกัน จะเพิ่มบริการดูแลลูกค้า การสร้างแบรนด์ และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเสริมรายละเอียดในส่วนย่อย นอกจากนี้ ในอนาคตโอเปอร์เรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย อาทิ ดีแทค เอไอเอส และทรูมูฟ จะร่วมมือกันบล็อคข้อความไม่พึงประสงค์ ที่เป็นการโฆษณาหรือเชิญชวนให้ดาวน์โหลดคลิปต่างๆ โดยแต่ละค่ายร่วมลงทุนกว่า 15 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินงานต่อไป” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ ของดีแทค กล่าว
ด้าน นายยรรยง อัครจินดานนท์ รองกรรมกาผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน บริการเสียงเพลงรอสายได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับบริการเสริมอื่นๆ จากการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ทำให้อาร์เอสร่วมมือกับดีแทคเพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ด้วยความพร้อมด้านเนื้อหาของอาร์เอส และรูปแบบการให้บริการของดีแทค เชื่อว่า ภายใน 3 เดือนแรกจะมีผู้สมัครใช้บริการสูงกว่า 6 แสนรายอย่างแน่นอน
ที่มา: thairath.co.th
