นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชัน บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์)
แคนนอนทุ่มงบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท ย้ำภาพความเป็นผู้นำ ขนทัพสินค้ากว่า 19 รุ่น ลุยตลาดคอนซูเมอร์ ในขณะเดียวกันวางแผนรุก SME และลูกค้าองค์กรด้วยเลเซอร์และมัลติฟังก์ชันพรินเตอร์ ให้ครบไลน์กว่า 20 รุ่น
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชัน บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า แคนนอนต้องการเป็นผู้นำในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทำให้ต้องเพิ่มงบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท เพื่อคงความเป็นผู้นำในตลาดต่อไป
"แคนนอนต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ในตลาดบิสสิเนส เป็น 20-25% รวมถึงมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดเลเซอร์พรินเตอร์ให้ถึง 25% จากผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ด้วยการเพิ่มช่องทางจำหน่าย และแผนการตลาดที่รุกหนักมากขึ้น"
ปัจจุบันแคนนอนมีส่วนแบ่งในตลาดรวมอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ อยู่ที่ 46% หรือราวๆ 3 แสนเครื่อง ซึ่งถ้านับเฉพาะพรินเตอร์อย่างเดียวจะมีส่วนแบ่งตลาด 52% ขณะที่ถ้าเป็นมัลติฟังก์ชันพรินเตอร์จะอยู่ที่ 42% โดยถือเป็นผู้นำในตลาดอิงค์เจ็ทเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน
ขณะที่ส่วนแบ่งในตลาดเลเซอร์พรินเตอร์ มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 15% ถือเป็นอันดับ 3 รองจากเอชพี และ ซัมซุง ที่มีส่วนแบ่ง 32% และ 30% ตามลำดับ ซึ่งถ้ามองจากปีที่ผ่านมาพบกว่ามีการเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งตลาดกันค่อนข้างสูง จากเดิมที่มีเพียงเอชพีเป็นผู้นำตลาดมานานหลายปี
จากจุดนี้ทำให้แคนนอน ให้ความสำคัญกับตลาดองค์กรและกลุ่มธุรกิจขนาดย่อมมากขึ้น จากยอดการเติบโตในกลุ่มนี้มากกว่า 60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยวางแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเลเซอร์พรินเตอร์ และมัลติฟังก์ชันพรินเตอร์ ให้ครบไลน์กว่า 20 รุ่น
โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ ได้เปิดตัวอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ในตระกูล Pixma 7 รุ่น ชูความสามารถในการเชื่อมต่อไวไฟในการสั่งพิมพ์จากอุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สาย กลุ่มผลิตภัณฑ์เลเซอร์พรินเตอร์ 9 รุ่น และโปรเจคเตอร์ความละเอียดสูงอีก 3 รุ่นด้วยกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอนซูเมอร์พรินเตอร์โปรดักส์ของแคนนอน มีสินค้ากว่า 20 รุ่นให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ซึ่งแคนนอนเองตั้งเป้าไว้ว่าจะมียอดรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์กว่า 8 พันล้านภายในสิ้นปีนี้ จากอัตราเติบโต 13%
ที่มา: manager.co.th