Author Topic: ไมโครซอฟท์แผ่ว แอปเปิลแซงในรอบ 15 ปี  (Read 1005 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟท์

       ดูเหมือนจะเป็นปีที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) เพราะปี 2010 คือปีแรกที่คู่แข่งตลอดกาลของไมโครซอฟท์อย่างแอปเปิล (Apple) สามารถแซงหน้าทั้งในแง่มูลค่าหุ้นและรายรับรวม
       
       โดยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศออกมาช่วงปลายเดือนตุลาคม กลับมีมูลค่าน้อยกว่าตัวเลขที่แอปเปิลทำได้ในช่วงเวลาเดียวกัน ถือเป็นไตรมาสแรกในรอบ 15 ปีที่แอปเปิลสามารถท้าทายไมโครซอฟท์ได้อย่างเป็นรูปธรรมเช่นนี้ หลังจากที่แอปเปิลถูกยกให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาด (คำนวณจากมูลค่าหุ้น) เหนือกว่าไมโครซอฟท์ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
       
       ไมโครซอฟท์ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2010 (กรกฎาคม-กันยายน) ว่าสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 51% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิ 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นตัวเลขที่เหนือกว่าคำพยากรณ์ของบริษัทเงินทุนในวอลล์สตรีท เนื่องจากตลาดค้าซอฟต์แวร์วินโดวส์ (Windows) และซอฟต์แวร์สร้างงานเอกสารออฟฟิศ (Office) เติบโตเหนือความคาดหมาย ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์ระบุว่าสามารถทำรายได้รวม 16,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.86 แสนล้านบาท) ซึ่งด้อยกว่าแอปเปิลที่ทำรายรับรวม 20,340 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6.10 แสนล้านบาท)
       
       นี่เองที่ทำให้สื่อมวลชนอเมริกันรายงานว่า ไตรมาสที่ผ่านมาคือไตรมาสแรกในรอบ 15 ปีที่แอปเปิลสามารถทำยอดขายได้มากกว่าไมโครซอฟท์ โดยนักลงทุนนั้นตื่นตัวกับศักยภาพไมโครซอฟท์ที่ดูเหมือนว่าจะด้อยกว่าคู่แข่ง ทำให้มูลค่าหุ้นของไมโครซอฟท์ลดลงถึง 14% ทั้งที่ไมโครซอฟท์สามารถทำยอดจำหน่ายและกำไรได้มากกว่าช่วง 8 ปีก่อนกว่าเท่าตัว
       
       ** ไมโครซอฟท์ยังแกร่ง **
       
       ต้องยอมรับว่าไมโครซอฟท์สามารถทำได้ดีในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากยังสามารถรักษาการเติบโตของบริษัทไว้ได้แม้องค์กรธุรกิจจำนวนมากจะยึดนโยบายใช้จ่ายน้อยลง และแนวโน้มที่ชี้ว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคพีซีขาลง ซึ่งไม่เพียงความกังวลทั้งหมดจะไม่มีผลต่อรายได้ แต่ไมโครซอฟท์ยังโชว์ตัวเลขว่าผลิตภัณฑ์ระบบปฏิบัติการวินโดวส์และซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ออฟฟิศสามารถสร้างยอดขายให้ไมโครซอฟท์ถึง 60% ของยอดจำหน่ายรวม โดยคิดเป็น 80% ของกำไรทั้งหมด
       
       ผลประกอบการดีเยี่ยมของไมโครซอฟท์ทำให้นักวิเคราะห์มองคำว่า "ธุรกิจพีซีกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง" เป็นการตื่นตัวที่เกินกว่าเหตุ เนื่องจากในนาทีที่ธุรกิจแท็บเล็ตเติบโตต่อเนื่อง ไมโครซอฟท์ซึ่งน่าจะเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในตลาดพีซีที่ได้รับผลกระทบก่อนใคร ก็ยังไม่ถึงกับทรุดตามคำคาดการณ์ของหลายสำนัก
       
       จุดอ่อนใหญ่ที่สุดของไมโครซอฟท์คือกลุ่มบริการออนไลน์ ซึ่งมีส่วนประกอบใหญ่เป็นบริการเสิร์ชเอนจินอย่าง Bing และเว็บท่า MSN กลุ่มธุรกิจนี้ขาดทุนเพิ่มขึ้น 17% แตะระดับตัวแดง 560 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุเป็นเพราะการลงทุนอย่างหนักเพื่อไล่ตามจ่าฝูงอย่างกูเกิล คาดว่าเบ็ดเสร็จตลอด 5 ปี ไมโครซอฟท์ขาดทุนจากแผนกนี้ราว 6,000 ล้านเหรียญแล้ว
       
       สำหรับตัวเลขยอดรายรับรวม 16,200 ล้านเหรียญ ไมโครซอฟท์ระบุว่าเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 25% ส่งให้มีกำไร 5,400 ล้านเหรียญ หรือ 62 เซ็นต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 3,600 ล้านเหรียญ หรือ 40 เซ็นต์ต่อหุ้น
       
       เฉพาะธุรกิจจำหน่ายซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ทำกำไรขั้นต้นได้มากที่สุด 3,400 ล้านเหรียญ รองลงมาคือธุรกิจจำหน่ายระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ทำกำไรขั้นต้น 3,300 ล้านเหรียญ นอกนั้นเป็นกลุ่มธุรกิจเครื่องมือและเครื่องแม่ข่าย ซึ่งรวมเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งด้วย ทำกำไรขั้นต้นได้ 1,600 ล้านเหรียญ ส่วนกลุ่มสินค้าเพื่อความบันเทิงอย่าง Xbox และซอฟต์แวร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ทำกำไรขั้นต้น 382 ล้านเหรียญ
       
       ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ดำเนินนโยบายเลิกจ้างพนักงาน 5,800 คนจนมีจำนวนพนักงานรวมในขณะนี้ 89,000 คน
       
       ** คู่แข่งแกร่งมากกว่า **
       
       แม้แอปเปิลจะมีกำไรสุทธิตลอด 3 เดือนต่ำกว่าไมโครซอฟท์ โดยประกาศที่ 4,310 ล้านเหรียญ แต่กำไรของแอปเปิลที่แกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การได้กำไรในไตรมาสก่อนเพียง 3,350 ล้านเหรียญ (ปี 2009) และ 2,530 ล้านเหรียญ (ปี 2008) รวมถึงรายรับรวมของแอปเปิลที่เพิ่มขึ้นถึง 67% ในไตรมาสเดียวกัน ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นในอนาคตของไมโครซอฟท์เท่าใดนัก จนเป็นผลให้มูลค่าหุ้นไมโครซอฟท์ตกต่ำลงในที่สุด
       
       แอปเปิลระบุว่า ไอโฟน (iPhone) ถือเป็นกำลังหลักในการสร้างรายได้ให้แอปเปิลในไตรมาส 3 เนื่องจากยอดจำหน่ายทั้งหมดสูงถึง 14.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยไอแพด (iPad) จำหน่ายได้ 4.2 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.8 ล้านเครื่อง จุดนี้แอปเปิลชี้แจงว่าเป็นเพราะปัญหาในสายการผลิตไอแพด ซึ่งคาดว่าจะแก้ไขสถานการณ์ได้ในไตรมาสนี้ สำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอช แอปเปิลระบุว่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 28% เบ็ดเสร็จที่ 3.89 ล้านเครื่อง เครื่องเล่นเพลงไอพอด (iPod) มียอดจำหน่ายที่ 9.05 ล้านเครื่อง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการมหาศาลของผู้บริโภคที่ไมโครซอฟท์ไม่อาจเข้าถึงได้
       
       ในส่วนคู่แข่งไมโครซอฟท์ด้านธุรกิจออนไลน์ ยักษ์ใหญ่กูเกิลระบุว่ามีรายได้หลังหักส่วนแบ่งกับเว็บไซต์พันธมิตรราว 5,480 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งทำได้ 5,270 ล้านเหรียญ แหล่งรายได้ใหญ่คือธุรกิจลงโฆษณาชนิดจ่ายตามจำนวนคลิก ซึ่งเพิ่มสูงขึ้น 16% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว
       
       ความแข็งแกร่งของคู่แข่งทั้งหมดนี้ ทำให้ไม่น่าแปลกใจหากไมโครซอฟท์จะถูกแซงหน้าเรื่องการโกยเงินจากผู้บริโภคไป แต่ย่อมเป็นเรื่องไม่ดีแน่ หากไมโครซอฟท์จะไม่ปรับตัวและปล่อยให้รูปการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
       
       Company Related Link :
       Microsoft

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)