น.ส.กรวรรณ หรือ กวาง สุทธิวงษ์ อายุ 22 ปี นักร้องสาวค่ายไลฟ์ทีวี เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แสดงบัตรประจำตัวให้สื่อมวลชนดู ว่าคนละคนกับผู้ต้องหาที่ถูกจับได้
“กวาง กรวรรณ” นักร้องสาวโร่แจ้งความ แสดงตัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หลังมีข่าวถูกจับ พร้อมอุปกรณ์เสพยาไอซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ยันผู้ต้องหาที่ถูกจับเป็นคนละคนกัน ขณะที่ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้รับเป็นนักร้องเหมือนกัน แต่ร้องเพลงตามผับ และไม่ได้แอบอ้างชื่อสวมรอยตามที่เป็นข่าว
จากกรณีมีข่าวเผยแพร่ออกไปตามเว็บไซต์ข่าวสำนักต่างๆ ว่า น.ส.กรวรรณ หรือ กวาง สุทธิวงษ์ นักร้องสาวค่ายไลฟ์ทีวี ถูกตำรวจ สน.โชคชัย จับกุมได้ที่ด่านตรวจบริเวณแยกธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโชคชัย 4 ซอยโชคชัย 72 แขวงและเขตลาดพร้าว พร้อมของกลางอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ และมีปัสสาวะสีม่วง นั้น
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.โชคชัย น.ส.กรวรรณ หรือ กวาง สุทธิวงษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203/1 หมู่ที่ 1 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นักร้องสาวค่ายไลฟ์ทีวี พร้อม นางพันธุ์ทิพา สุทธิวงษ์ อายุ 40 ปี และ นายอภิชาติ เพชรรัตน์ ทนายความประจำบริษัท ไลฟ์ทีวี เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ พ.ต.ท.สำรวย แสนสม พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.โชคชัย ว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้ต้องหาที่ถูกจับก็เป็นคนละคนกัน พร้อมทั้งนำบัตรประชาชน และเอกสารที่คัดลอกมาจากเว็บไซต์ข่าวจากสำนักต่างๆ มามอบเป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวนด้วย
น.ส.กรวรรณ เปิดเผยทั้งน้ำตาคลอเบ้า ว่า ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และยังเป็นนักร้องในสังกัด “ไลฟ์ ทีวี” โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แม่ได้มาบอกว่า มีข่าวปรากฏตามเว็บไซด์ต่างๆ ว่า ตนถูกจับกุมพร้อมอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ และมีปัสสาวะสีม่วง จึงรีบลงมาเปิดเว็บไซต์ตรวจสอบดู ก็เจอข่าวดังกล่าว ทำให้รู้สึกตกใจมาก เพราะความจริง ผู้ต้องหาที่ถูกจับกับตนนั้นเป็นคนละคนกัน อีกทั้งเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) แม่ขับรถไปส่งตนเรียนที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ในช่วงเที่ยง จนกระทั่ง 15.00 น.แม่ก็มารับกลับบ้าน ก่อนที่ช่วงเย็นจะไปเดินตลาด จากนั้นก็กลับมาที่บ้านอยู่กับแม่และน้อง โดยไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย
“ข่าวที่ออกไปมีผลกระทบทำให้กวางเสียหายมาก ทางมหาวิทยาลัยก็โทร.มาถามว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อนที่เห็นข่าวก็ตกใจโทร.มาถาม เพราะกวางไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน ไม่เคยเข้าผับเข้าบาร์ และขอยืนยันว่า ไม่เคยเล่นยาแต่อย่างใด แล้วก็ไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหาที่ถูกจับด้วย ก็อยากให้สื่อช่วยลงข่าวแก้ไขให้ด้วย” นักร้องสาว กล่าวทั้งน้ำตา
ด้าน นางพันธุ์ทิพา กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) ลูกสาวก็อยู่กับตนตลอดเวลา ตอนเช้าก็ขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัย ตอนเย็นก็ไปรับกลับบ้าน จากนั้นก็นั่งกินข้าว กับดูละครด้วยกัน ซึ่งตนยังคุยกับลูกเรื่องโฆษณาของซิตี้แบงก์ ที่เพิ่งออกอากาศไป หลังจากนั้น ก็เข้านอนในช่วง 22.30 น.โดยที่ลูกสาวไม่ได้ออกไปไหน และตนกับสามีก็ไม่เคยปล่อยให้เที่ยวกลางคืน ผับบาร์ก็ไม่เคยเข้า จะมีแค่ออกไปดูหนังกับพ่อแม่ และน้องๆ เท่านั้น
นางพันธุ์ทิพา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ลูกสาวก็รู้สึกเครียดมาก เพราะยังมีโฆษณาอีก 2 ตัว ของธนาคารออมสิน กับเครื่องดื่มเป๊ปทีน ที่ถ่ายทำไปแล้ว แต่พอมีข่าวแบบมีออกมา ลูกสาวก็กลัวว่า จะถูกถอดออกจากโฆษณา อย่างไรก็ตาม หลังจาก พ.ต.ท.นิคม สุทธิวงษ์ พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นสามีของตนทราบข่าว ก็บอกลูกสาวให้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นต้องให้สามีเป็นคนตัดสินใจ
ขณะที่ นายอภิชาติ ทนายความ กล่าวว่า ต้องขอดูข้อมูลก่อนว่าข่าวนี้ออกไปได้อย่างไร ข่าวที่ลงนั้นมีเจตนาที่ต้องการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือเป็นการเข้าใจผิดจริง ซึ่งหากเป็นการเข้าใจผิดๆ ก็อาจจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเมื่อคืนนั้น คือ น.ส.กรวรรณ คอนโชเล่ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 284 หมู่ 5 ต.บุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า เป็นนักร้องตามผับ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากเลิกงานร้องเพลงที่ย่านดอนเมืองแล้ว ก็นั่งรถแท็กซี่เพื่อจะเดินทางไปกินข้าวกับเพื่อนที่ย่านกองปราบ ในซอยโชคชัย 4 แต่ก็มาถูกตำรวจตรวจค้นและจับกุมเสียก่อน
น.ส.กรวรรณ คอนโชเล่ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา
จากนั้น น.ส.กรวรรณ สุทธิวงษ์ ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเยี่ยม น.ส.กรวรรณ คอนโชเล่ ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สน.โชคชัย ซึ่งทันทีที่ น.ส.กรวรรณ คอนโชเล่ เห็นนักร้องสาว กวาง-กรวรรณ ก็รีบลุกขึ้นชี้แจงว่า ไม่ได้แอบอ้างสวมรอยตามที่เป็นข่าว พร้อมทั้งอธิบายว่า ตัวเองชื่อเล่นว่า “เจน” เป็นนักร้องตามผับ และช่วงถูกตำรวจจับก็ไม่ได้บอกว่าเป็น “กวาง” แต่อย่างใด อาจเกิดความเข้าใจผิดก็ได้ เพราะถึงแม้ตัวเองจะเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี แต่ก็สวยสู้ “กวาง” ไม่ได้
ที่มา: manager.co.th