ปัญหากระทบกระทั่งระหว่าง จีน, ญี่ปุ่น และไต้หวัน ระลอกใหม่เกิดขึ้นที่เทศกาลหนังโตเกียว ซึ่งถึงกับเป็นผลให้นักแสดง และผู้กำกับชาวไต้หวัน ไม่ได้รับการอนุญาตให้เดินบนพรมเขียวระหว่างงาน ขณะที่ฝ่ายนักแสดงสาว "วิเวียน ซู" ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง ถึงกับน้ำตาร่วงกับเรื่องวุ่นวายครั้งนี้กันเลยทีเดียว
นอกจากกิจกรรมฉายภาพยนตร์ และการร่วมงานของเหล่าคนดังมากมายแล้ว การเมืองดูจะเป็นเรื่องปกติของเทศกาลภาพยนตร์โตเกียวไปแล้ว เช่นเดียวกับในงานประจำปี 2010 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน กับความขัดแย้ง และการงัดข้อกันของสองประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ซึ่งมีผลกระทบไปถึงเหล่านักแสดงที่เดินทางมาร่วมงานด้วย
เหตุเกิดจากปัญหา "ไต้หวัน - ไชนิสไทเป"
ประเด็นของคำว่า 'ไต้หวัน และ ไชนิสไทเป' ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาจนได้ เมื่อตัวแทนจากรัฐบาลจีน ไม่พอใจผู้รับผิดชอบจัดงานเทศกาลหนังโตเกียว จนถึงขั้นขอถอนหนังหลายเรื่องจากเทศกาลหนัง และบอยคอตต์ไม่เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในงานครั้งนี้เพียงเพราะผู้จัดงานเรียกตัวแทนจากไต้หวันว่า 'ไต้หวัน'
เจียงผิง หัวหน้าคณะผู้แทนจากจีน ได้กล่าวโทษผู้จัดงานเทศกาลว่าไม่ควรอนุญาตให้คณะผู้แทนจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าร่วมงานในฐานะ 'ตัวแทนจากประเทศไต้หวัน' แต่ควรเป็น 'ตัวแทนจากไชนิส-ไทเป' ต่างหาก เพราะนั่นคือชื่ออย่างเป็นทางการ สำหรับใช้ในงานสำคัญระดับนานาชาติ รวมถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ไต้หวันก็ถูกเรียกว่า ไชนิสไทเป เช่นเดียวกัน
เจียงผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการทั่วไปของ สำนักกิจการวิทยุ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์แห่งชาติจีน (SARFT) ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างร่วมงานครั้งนี้วา "เราต้องการประท้วงผู้จัดงาน ที่แนะนำตัวแทนของสองประเทศว่ามาจาก 'จีน และไต้หวัน' นอกจากนั้นผู้จัดงานยังปฏิเสธคำร้องของเราที่ให้เปลี่ยนคำเรียก ไต้หวัน เป็น 'ไชนิส-ไทเป' หรือ 'ไต้หวันที่ส่วนหนึ่งของจีน' ด้วย"
"เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับไต้หวันซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติของเรา แต่เป็นความผิดพลาดของผู้จัดงานเทศกาลหนังโตเกียว" ตัวแทนของจีนกล่าว และยังแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ด้วยการถอนตัวจากกิจกรรมอื่น ๆ ของงานโดยอ้างว่า ผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์โตเกียวละเมิดต่อจุดยืนเรื่อง 'จีนเดียว' ของประเทศ
ขณะที่ฝ่ายของตัวแทนจากไต้หวันซึ่งนำโดย เฉินฉือกวน ผู้อำนวยการสำนักงานข้อมูล สังกัดกองกิจกรรมภาพยนตร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ศิลปะควรถูกแยกให้ออกห่างจากปัญหาทางการเมือง เขายังเสริมว่าในปีก่อน ๆ ประเทศได้เข้าร่วมเทศกาลหนังโตเกียวในฐานะไต้หวันมาโดยตลอด ซึ่งทางจีนก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
โดยขณะนี้มีการยกเลิกการฉายหนัง 9 เรื่องที่มาจากจีนไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่หนังจีนสองเรื่องอย่าง Buddha Mountain และ The Piano in A Factory ที่เข้าฉายในสายประกวด ยังได้รับอนุญาตให้ฉายต่อไป โดยทีมงานของภาพยนตร์เรื่อง The Piano in A Factory ยืนกรานว่าจะทำทุกอย่างตามนโยบายของ SARFT
หลิวเจียงหยง รองประธานสถานบันนานาชาติศึกษา มหาวิทยาลัยชิงหัว มองว่าการประท้วงครั้งนี้เป็นสิทธิ์ของรัฐบาลจีนต่อจุดยืนเรื่องจีนเดียว "ญี่ปุ่นควรทราบว่าปัญหาเรื่องไต้หวัน เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลปักกิ่ง ที่ไม่มีวันจะยอมประนีประนอม โตเกียวต้องไม่พยายามทำให้ปัญหาซับซ้อนขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่าง จีน และญี่ปุ่นกำลังเปราะบางเช่นนี้"
ซึ่งนักวิเคาะห์บางคนยังตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องดังกล่าว ไต้หวัน อาจเพียงถูกใช้เป็นเครื่องมือของจีน ในการสร้างปัญหาให้กับญี่ปุ่น หลังสองประเทศมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ รวมถึงปัญหาข้อขัดแย้งเรื่องการจับตัวชาวประมงจีนโดยทางการญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วย
ดาราโดนลูกหลง "วิเวียน ซู" น้ำตาร่วง
ผลจากการงัดข้อกันครั้งนี้ ทำให้ดารา และคนทำหนังชาวไต้หวันหลายคนที่เดินทางไปร่วมงาน ไม่สามารถเดินบนพรมเขียว (เทศกาลหนังญี่ปุ่นเลือกใช้พรมเขียวแทนพรมแดง เพื่อสนับสนุนแนวคิดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม) ในฐานะตัวแทนจากไต้หวันได้ หลังผู้จัดงานเกรงว่าจะทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นไปอีก
แฟรงค์ เฉิน หัวหน้าคณะตัวแทนจากไต้หวัน กล่าวว่าเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังเชื่อว่าชาวญี่ปุ่นจะสนใจหนังจากประเทศตนเองเช่นเดิม "หนังไต้หวันยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ชาวญี่ปุ่นยังคงชอบหนังของเรา" ขณะที่ผู้กำกับ หลี่คัง ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเริ่มใหญ่โตเกินว่าเรื่องหนังและความบันเทิงไปแล้ว "ปัญหาที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับการฉายหนังแล้ว แต่เป็นประเด็นจีนเดียวที่ใหญ่กว่าเรื่องหนังมาก" เขายอมรับ
ระหว่างการแถลงข่าวของคณะตัวแทนจากไต้หวัน ดาราสาวสวยวัย 35 ปี วิเวียน ซู หรือ สียั่วเซียน ที่รู้สึกเสียใจกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถึงกับหันหลังเพื่อไปเช็ดน้ำตา โดยนักแสดงหนุ่ม หรวนจิงเทียน พยายามปลอบใจดาราสาวรุ่นพี่ ด้วยการแตะไปที่ไหล่ของเธอ และพยายามส่งสัญญาณไปถึงทีมงาน เพื่อขอกระดาษทิชชูให้กับวิเวียน
วิเวียน ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ไม่ได้เดินพรมเขียวเป็นเรื่องโชคร้ายจริง ๆ ค่ะ ทั้งผู้กำกับ, อีธาน (หรวนจิงเทียน) และจางจวินหนิง ดื่มหนักกันจนถึงเช้าก็เพราะเรื่องนี้เลย" โดยคณะตัวแทนจากไต้หวันได้ทราบถึงปัญหาต่าง ๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ก็ยังเตรียมตัวเพื่อเดินพรมเขียวในงานใหญ่ครั้งนี้ จนกระทั่งกิจกรรมดังกล่าวต้องถูกยกเลิกไปในวินาทีสุดท้าย "อีธาน โมโหกับเรื่องนี้มากถึงกับถอดเนคไทออก และขว้างมันลงกับพื้นเลยค่ะ" วิเวียน เล่าถึงเหตุการณ์
ซึ่งหลังเกิดปัญหาขึ้นทั้งผู้กำกับ และนักแสดงในคณะตัวแทนจากไต้หวันบางคน ได้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศภายในวันที่ 23 ต.ค. ทันที ขณะเดียวกันนักแสดงทั้งจากไต้หวัน, จีน และฮ่องกง ที่มีกำหนดร่วมงานเทศกาลหนังโตเกียว ก็ขอยกเลิกกำหนดการดังกล่าว รวมถึง เหลียงเฉาเหว่ย และ จางจื่ออี๋ ขณะที่ ฟั่นปิงปิง ให้เหตุผลว่าติดถ่ายภาพยนตร์ในเกาหลีใต้ จึงไม่สามารถเดินทางมาโตเกียวว่า
ในภายหลัง ดาราสาวขวัญใจชาวไต้หวันยังแสดงความผิดหวังกับเหตุการณ์ดังกล่าว และโพสต์ภาพชุด และเครื่องประดับ ที่เตรียมไว้สำหรับการเดินพรมเขียว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ ในเว็บไซต์ของเธอ นอกจากนั้นยังกล่าวแบบติดตลกถึงเรื่องนี้ว่า "พอไม่ได้เดินพรมเขียวแล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็คือวางกระดาษสีเขียวลงบนพื้นเพื่อเดินกันเองบริเวณหลังเวที ก็แค่ทำกันเล่น ๆ สนุก ๆ เท่านั้นล่ะค่ะ"
ที่มา: manager.co.th