Author Topic: กทช.หนุนงบไทยฮอตไลน์ป้องภัยเยาวชน  (Read 1164 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

กทช. พร้อมหนุนงบ เวบไทยฮอตไลน์ รับมือสื่อไม่เหมาะสมบนอินเตอร์เน็ต เผยผลงาน 5 เดือนพบผู้ร้องเรียนสื่อลามก 122 รายการ

 พล.อ. ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธาน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวในงานเปิดตัว สายด่วนแจ้งเหตุเว็บไม่เหมาะสม www.thaihotline.org เมื่อ 1 เม.ย. ว่า กทช. พร้อมสนับสนุนการจัดตั้งเห็นความสำคัญของการเผยแพร่เนื้อหาบนโลกออนไลน์ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เนื่องจากปัจจุบัน มีการหลอมรวมของเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ทั้งมีการเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นอันตราย ผิดกฎหมาย มากขึ้นตามไปด้วย แม้จะมีกฎหมายหลายฉบับที่ใช้ในการกำกับดูแล แต่ก็ยังขาดการตีความที่ชัดเจนว่าเนื้อหาแบบใดเข้าข่ายไม่เหมาะสมหรือต้องห้าม


 ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ตั้งแต่เอกชน จนถึงประชาชนในสังคม แจ้งเบาะแส เข้าหน่วยงานกลางเช่นwww.thauhotline.com ที่ไอเอสพี สนับสนุนการจัดตั้งก่อนหน้านี้ โดยกทช.จะพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งที่ได้รับจากผู้ประกอบการโทรคมนาคมมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของเวบไซต์ดังกล่าว
     

      “ เว็บไซต์ไทยฮอตไลน์ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ด้วยจุดมุ่งหมายในการปกป้องสังคมจากเนื้อหาที่เป็นอันตราย โดยจัดให้มีช่องทางรับแจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมทางเว็บไซต์ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตรา และประสานงานกับองค์กรสมาชิกเพื่อระงับข้อมูลที่เป็นปัญหาก่อนที่จะขยายตัวไปสู่วงกว้าง “พลเอกชูชาติกล่าว


 นาย ไพรัช  ธัชยพงษ์ ประธานมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า มูลนิธิฯได้ขอการสนับสนุนจากกทช. เพื่อดำเนินการเวบไซต์ประมาณ 2 ล้านบาท จากเดิมที่จะได้รับการสนับสนุนจากไอเอสพี รายละ 5 พันบาท  ซึ่งก่อนหน้านี้ 5เดือนได้เปิดเว็บเว็บไซต์ไทยฮอตไลน์มา 5 เดือน มีผู้ปกครอง ครู นักเรียน แจ้งเรื่องร้องเรียนและให้ตรวจสอบมากกว่า 324 รายการ แบ่งเนื้อหาที่ได้รับแจ้งเป็นกลุ่มดังนี้ 1. สื่อลามกอนาจาร 122 รายการ (ภาพและคลิปลามก ขายวีซีดีและอุปกรณ์ทางเพศ เรื่องเล่า,เว็บบอร์ด รวม เกมลามก 2.  การพนัน 55 รายการ ที่ส่วนใหญ่เป็นเว็บพนันบอล มีเว็บเกมพนันอื่นๆ บ้าง 3.   เว็บไซต์หมิ่นประมาท หมิ่นสถาบัน 35 รายการซึ่งจะมีทั้งการหมิ่นบุคคล หมิ่นสถาบัน วิจารณ์การเมือง


   4. ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล 5 รายการ เช่นคลิปหลุด แอบถ่าย ภาพหรือคลิปการละเมิดบางส่วนไปปรากฏอยู่ในกลุ่มสื่อลามกอนาจารด้วย


 ประการที่ 5. ประเภทขัดต่อศีลธรรมอันดีของสังคม 28 รายการ เช่นขายบริการทางเพศ ทำแท้ง ภาพไม่เหมาะสม  6.  เป็นอันตรายต่อสังคมและความมั่นคงของประเทศ 64 รายการ เช่นมุ่งหวังทำลายล้างระบบสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  เผยแพร่ภาพไม่เหมาะสม ขายยาสลบ ยาปลุกเซ็กซ์ ยานอนหลับ เครื่องโคลนซิมการ์ด   


 7.สแปมเมล์ 10 รายการ เช่น ขายสินค้า เชิญชวนหาสมาชิก นัดเดท  8. อื่นๆ 5 รายการ เช่นการปลอมแปลงข้อมูล ขายรายชื่ออีเมลและโปรแกรมทำสแปม เว็บจับคู่ ให้โหลดเอ็มพี3


 ทั้งนี้หลังจากพบการร้องเรียนเนื้อหาไม่เหมาะสม ไทยฮอตไลน์ได้ประสานงานกับผู้ดูแลข้อมูลโดยตรงเพื่อถอดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกรวม 54 รายการ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย 182 รายการ แจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตพิจารณา ดำเนินการตามความเหมาะสม 56 รายการ ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เนื่องจากข้อมูลการแจ้งไม่สมบูรณ์หรือเป็นกรณีที่ไม่เข้าข่ายต้องดำเนินการใดๆ รวม 32 รายการ ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นเว็บไซต์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งยากแก่การจัดการ”


 นาย ไพรัช กล่าวว่า ไทยฮอตไลน์ทำงานตามมาตรฐานฮอตไลน์สากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยเน้นให้ความสำคัญกับการปกป้องเด็กจากการถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ไม่ว่าจะเป็น สื่อลามกเด็ก การล่อลวง ละเมิด ทำร้ายเด็ก การค้าประเวณีเด็ก และการค้ามนุษย์  ข้อมูลส่วนตัวและการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ยาเสพติด และ การก่อการร้าย  ในขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในการจัดการกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมายของประเทศ  และเนื้อหาอื่นๆ ที่มีความเปราะบางต่อสังคมไทยด้วย


 อย่างไรก็ตามการทำงานจะไม่ซ้ำซ้อนกับการทำงานของหลายหน่วยงานในปัจจุบันเช่นกระทรวงไอซีที ซึ่งการทำงานจะไม่ซ้ำซ้อนกับทางกระทรวงไอซีที ที่มีไซเบอร์ อินสเปคเตอร์ แต่จะประสานกันเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่เมื่อพบข้อมูลที่ไม่เหมาะสมบนเวบไซต์ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าเป็นกระทู้ หรือบล็อก  ก็จะแจ้งไปยังเจ้าของเวบนั้นให้ลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมออก หรือถ้าเกี่ยวข้องกับกฎหมายก็จะแจ้งตำรวจ ให้ดำเนินการต่อไป ตลอดจนแจ้งไอเอสพี ให้ยกเลิกการให้บริการแก่เวบไซต์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหากมีการฝากเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่ต่างประเทศ จะประสานงานไปยัง  เครือข่าย อินโฮป ในต่างประเทศดำเนินการในประเทศนั้นๆ 


 ทั้งนี้จากนี้ไปจะเก็บสถิติข้อมูลเนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนสื่อออนไลน์ในประเภทต่างๆ และนำไปเพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการ ตลอดจนมุ่งหวังลดการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดโดยเฉพาะการชักจูงล่อลวง เยาวชน เผยแพร่ภาพการละเมิดสิทธิของเยาวชนให้ลดน้อยลงไปในที่สุด


ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)