ซัมซุงเตรียมทำตลาดพีซีโน้ตบุ๊ก หวังดันยอดรายได้-กำไรสินค้าในกลุ่มไอทีเพิ่ม เจาะกลุ่มพรีเมียมระดับราคาไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท พร้อมเดินหน้าลุยเพิ่มมาร์เกตแชร์ตลาดมอนิเตอร์เป็น 32% ด้วยยอดขาย 580,000 เครื่อง จากตลาดรวม 1.8 ล้านเครื่อง ถึงสิ้นปีเตรียมวางตลาดมอนิเตอร์ 10 รุ่น 2 ซีรีส์ใหม่ล่าสุด
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ พีซีโน้ตบุ๊กเข้ามาในกลุ่มสินค้าไอทีโดยจะเริ่มทำตลาดในเดือนนี้ จากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาซัมซุงได้เพิ่มสินค้าประเภทโปรเจกเตอร์เข้ามาทำตลาดแล้ว โดยสาเหตุที่บริษัทเพิ่มไลน์สินค้าไอทีใหม่เข้ามา เนื่องจากต้องการดึงการเติบโตของรายได้ให้สูงขึ้นเนื่องจากสินค้าไอทีประเภทอื่นมีแนวโน้มกำไรลดลง ประกอบกับประเทศไทยและทั่วโลกได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้มีความต้องการสินค้าไอทีลดลง
เหตุที่ซัมซุงนำพีซีโน้ตบุ๊กเข้ามาทำตลาดเพราะมองเห็นโอกาสของตลาดที่มีขนาดใหญ่ และยังมีช่องทางให้ซัมซุงเข้าไปทำตลาดได้ โดยจะเน้นทำตลาดในกลุ่มพรีเมียมโน้ตบุ๊กที่ระดับราคา 20,000 บาทขึ้นไป ส่วนเครื่องเน็ตบุ๊กจะเป็นระดับราคา 10,000 บาทขึ้นไป โดยสาเหตุที่บริษัทจับกลุ่มพรีเมียมเพื่อให้เข้ากับภาพลักษณ์ของบริษัท
สำหรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก จะส่งผลให้ตลาดรวมมอนิเตอร์ในแง่จำนวนเครื่องปีนี้เติบโตเพียง 6% หรือประมาณ 1.8 ล้านเครื่องจากปีที่ผ่านมา เติบโต 18% ในแง่มูลค่าตลาดรวมเป็นจำนวนเงินปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1-2% จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่า 10,500 ล้านบาท
นายบุญเลิศ กล่าวว่าตลาดรวมมอนิเตอร์ในแง่จำนวนเครื่องจะปรับตัวลดลงแต่ซัมซุงยังจะสามารถเติบโตได้ โดยบริษัทตั้งเป้ามีมาร์เกตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 32% หรือมียอดขาย 580,000 เครื่อง จากปีที่ผ่านมาบริษัทมีมาร์เกตแชร์ 27% คิดเป็นจำนวน 470,000 เครื่อง โดยจะเน้นการมีจุดเด่นด้านนวัตกรรมและการพัฒนา ประกอบกับซัมซุงมีการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนาต่อเนื่อง และยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม
อย่างไรก็ดี ในปีนี้เพื่อเป็นการผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทมีแผนปรับปรุงหน้าร้านให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเข้าถึงสินค้าได้ง่าย รวมทั้งมีแผนเปิดตัวมอนิเตอร์ในปีนี้ทั้งสิ้น 10 รุ่น จำนวน 2 ซีรีส์เพื่อกระตุ้นความต้องการของลูกค้า
“ในปีนี้ ซัมซุงได้เปิดตัวแอลซีดีมอนิเตอร์ใหม่ 2 ซีรีส์ได้แก่ ซัมซุง 70 ซีรีส์ และ แล็ปฟิตซีรีส์ จำนวน 2 รุ่น LD 190G และ LD 220G โดยวิสัยทัศน์ด้านการตลาดในปีนี้ ยังคงมุ่งเน้นเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่ม และเน้นสินค้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม”นายบุญเลิศกล่าว
ในส่วนภาพแนวโน้มราคาต่อเครื่องมอนิเตอร์ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยในปีนี้แนวโน้มราคาปรับตัวลงมาอยู่ที่ 4,000-5,000 บาท จากปีที่ผ่านมา ราคาอยู่สูงกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งปกติสินค้าไอทีราคาจะปรับตัวลดลงเฉลี่ยปีละ 10-15 %
ที่มา: manager.co.th
