“หลุยส์” คอนเฟิร์มยังคบกับ “นุ่น รมิดา” เหมือนเดิม แต่ตอนนี้งานเยอะเลยเจอกันน้อยลง รับคนเราก็ต้องมีเรื่องทะเลาะกันบ้าง แต่อยู่ที่ว่าจะเคลียร์ปัญหากันได้หรือเปล่า
คบกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่มมาแรงอย่าง “หลุยส์ สก็อต” กับดาราสาว “นุ่น รมิดา ประภาสโนบล” แต่ก็ยังไม่เคยควงคู่ออกงานให้เห็นกันจะๆ แถมพักหลังๆ หลุยส์ก็ฮอตจนไม่มีเวลาให้กับแฟนสาว ประกอบกับมีข่าวว่าอดีตพระเอกหนุ่มอย่าง “ต้น จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์” เข้ามาแทรกเป็นมือที่สามอีก ก็เลยเมาท์กันสนั่นว่า ความสัมพันธ์ของหลุยส์กับนุ่นเริ่มถอยหลังลงคลองซะแล้ว
“ข่าวเลิกกับนุ่นไม่จริงครับ ยังคบกันอยู่ครับ ความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิม ยังเจอกันอยู่ แต่ข่าวแบบนี้ผมก็เข้าใจอยู่แล้วล่ะ เพราะเราทำงานอยู่ตรงนี้ มันก็ต้องมีข่าวที่คนอื่นเขาเอาไปพูด แต่สำหรับตัวผมเองไม่ได้พูดครับ ไม่จริงครับ”
“กับข่าวนี้ก็ไม่บั่นทอนหรอกครับ มันเป็นความเคยชิน เพราะผมเองก็ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ก็ค่อนข้างจะเข้าใจว่าบางครั้งมันก็ต้องมีบ้างว่า บางข่าวก็จริง บางข่าวก็ไม่จริง แต่เราก็รู้เองแหละครับว่าข่าวไหนจริงไม่จริง ก็ไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรกันครับ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเรารู้สึกยังไงต่อกัน เราทำอะไรให้กัน เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านแล้วมานั่งรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ คือผมจะบอกเขาเองว่าผมรู้สึกยังไง”
ยอมรับตนมีงานเยอะขึ้น เลยไม่ค่อยมีเวลาให้กัน แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะพาแฟนสาวออกไปเที่ยวอยู่เสมอ
“ก็ยังมีไปไหนด้วยกันอยู่บ้างนะครับ แต่ว่าช่วงนี้ตัวผมเองก็รับงานเยอะ ละครหลายเรื่อง เวลาก็เลยมีน้อยลง แต่ว่าถ้าเรามีเวลาว่างก็จะพยายามพาเขาออกไปข้างนอก แต่ที่ไม่ค่อยออกงานด้วยกันผมก็กลัวจะมีประเด็นอะไรออกมามากกว่า(หัวเราะ) คือเรามาทำงานเราก็ทำงานดีกว่า แต่ถ้าเวลาไหนที่เราเป็นส่วนตัวเราก็อยู่กับเขา แต่ว่าถ้าเปิดเมื่อไหร่เดี๋ยวก็ได้รู้กันครับ หมายถึงว่ามาทำงานด้วยกัน เดินแคทวอล์กด้วยกันครับ”
“แต่ช่วงนี้งานเยอะก็อาจจะมีส่วนทำให้มีข่าวว่าห่างๆ กันด้วยมั้งครับ แต่เรื่องทะเลาะกันมันก็มีเป็นเรื่องปกติครับ คนเราคบกันมันก็ต้องมีทะเลาะกัน แต่ถ้าเราจะอยู่กันได้ก็ต่อเมื่อเราเคลียร์ปัญหากันยังไง ถ้าเคลียร์กันแบบดีๆ ก็โอเค ก็ไม่ได้บั่นทอนความรักอะไรนะ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าความรู้สึกที่เรามีให้เขาเป็นแบบไหน แล้วเขามีให้เราแบบไหนแค่นี้มันก็พอแล้วครับ แต่จริงๆ ข่าวมันก็ทำลายความสัมพันธ์ได้นะครับ แต่ว่าอันนี้มันไม่ใช่เคสนั้นครับ อันนี้มันไม่มีอะไรกระทบร้ายแรงเลย”
ที่มา: manager.co.th