“โกโก้” เดือด “เอ ศุภชัย” เขียนพ็อกเก็ตบุ๊กบิดเบือนความจริงเรื่อง “มาริโอ้” เตรียมปรึกษาทนายเอาเรื่องเต็มที่ ลั่นครั้งก่อนอุตส่าห์ยอมความให้แล้วบอกจะลงขอโทษในหนังสือพิมพ์ก็ไม่ลง แถมคราวนี้ยังมาเขียนหนังสือบิดเบือนอีก
เป็นนักปั้นดาราที่โด่งดังไม่แพ้ดาราเลยทีเดียวสำหรับ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของดาราระดับต้นๆ ของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นสาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” , “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” , “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” ฯลฯ ล่าสุดเจ้าตัวได้ตัดสินใจจรดปากกาเขียนพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มแรกในชีวิต “นักฉกไร้ยางอาย” โดยเนื้อหาเป็นการเปิดใจหมดเปลือกในทุกแง่มุมไม่ว่าจะเป็นกลวิธีของการเป็นผู้จัดการดารา การปั้นดาราแต่ละคนจากดินให้เป็นดาว รวมไปถึงเรื่องของการเป็นข่าวเกาเหลากับคนในวงการ และเรื่องราวที่เคยเกิดการฟ้องร้องกับนักปั้นมือใหม่ “โกโก้ นิรุณ ลิ้มสมวงศ์” กับการช่วงชิงนักแสดงหนุ่มดาวรุ่ง “มาริโอ้ เมาเร่อ” จนได้ฉายานักฉกไร้ยางอาย
ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวในพ็อกเก็ตบุ๊กนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับโกโก้เป็นอย่างมาก โดยเจ้าตัวเผยว่าเนื้อหาในหนังสือบิดเบือนไปจากความเป็นจริง และที่ทำเอาเสียใจที่สุดเห็นจะเป็นการที่ให้อดีตเด็กในสังกัดที่ถูกฉกอย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นคนชี้แจงในพ็อกเก็ตบุ๊กว่า ได้หมดสัญญากับตนก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในสังกัดของหนุ่มเอ ซึ่งตอนนี้ตนได้เตรียมปรึกษาทนายว่าจะเอาเรื่องกับเอ ศุภชัยได้มากน้อยแค่ไหน
“ตอนนี้ก็คือให้ทนายดูหนังสือของเขาอยู่ครับ คือเรากับพี่เอไม่ได้คุยกันตั้งแต่คราวมีเรื่องเมื่อครั้งก่อนแล้ว ตอนนั้นเราเองก็รู้แล้วว่าใครเป็นยังไง มันคุยกันไม่ได้ ตอนนี้ก็คิดว่าเขาพยายามสร้างภาพเพื่อให้น้องดูดี (มาริโอ้ เมาเร่อ)โดยอาศัยคดีของน้องมาเป็นเครื่องมือ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องที่ถูกพาดพิงในหนังสือจะดำเนินการเมื่อไหร่ ตอนนี้ยังไม่ทราบเลยครับ ต้องลองคุยกับทนายก่อนว่าจะเอาผิดได้ถึงขั้นไหน เพราะกฎหมายมันก็มีอยู่หลายระดับ ระดับของการทำผิดมันก็มีอยู่หลายระดับ”
“เนื้อหาในหนังสือมันเหมือนเป็นการยกคำพูดในส่วนของโก้ที่ไม่ดีก็เอามาวิเคราะห์ ทำให้โก้ดูแย่ แต่เขาไม่ได้ด่าตรงๆนะ ไม่ได้ด่าคำหยาบ แล้วก็มีการบิดเบือนความจริงหลายอย่าง อย่างเช่นขึ้นต้นหนังสือมาก็บอกว่า ให้มาริโอ้กับพระเอกผิวเข้มคนหนึ่งมาเขียนคำนำว่า นักฉกไร้ยางอาย ฉายานี้นักข่าวตั้งให้เล่นๆ มันไม่เป็นความจริง เพราะมาริโอ้ย้ายค่ายตอนที่สัญญาได้หมดแล้ว ตรงนี้มันเป็นสิ่งที่บิดเบือนความจริงมากที่สุดแล้ว โก้รู้สึกรับไม่ได้ ถ้าเกิดน้องย้ายตอนที่น้องหมดสัญญาแล้วตัวโก้ฟ้องได้ยังไง ถ้าคุณไม่พูดถึงเรื่องตรงนี้ไปเลยมันก็เป็นการดี เพราะศาลเองท่านก็สั่งว่าไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ถ้าคุณจะพูดถึงคุณอย่าบิดเบือนความจริง”
เผยในพ็อกเก็ตบุ๊กมีการระบุชื่อชัดเจนว่าเจตนาเอ่ยถึงใคร ซึ่งนอกจากตนที่โดนแล้วยังมีผู้ใหญ่ในวงการอีกหลายคนที่ถูกกล่าวถึง
“เท่านั้นยังไม่พอในหนังสือยังระบุชื่อชัดเจนทุกคนที่เขาเอ่ยอ้างถึง อย่างคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์เขาก็ดูถูกว่า คุณแดงหาเด็กได้ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ของโก้เขาก็ระบุชื่อโกโก้ นิรุณเลย ระบุชื่อพี่พจน์ก็พี่พจน์ ระบุชื่อพี่อุ๊บ ก็พี่อุ๊บ วิริยะ จริงๆ เรื่องนี้มันก็ไม่น่าจะถึงขั้นฟ้องร้องกันหรอก แต่เขาควรจะออกมาขอโทษและควรจะแก้ไขข้อมูลนะ แล้วไม่ใช่ว่าเขามาแก้ไขข้อมูลบิดเบือนความจริง เขาควรจะพูดความจริงว่า มาริโอ้ได้มีการเตรียมการ หรือไม่ตัวเขาไม่ต้องทำอะไรแต่ตัวน้องต้องออกมาขอโทษโก้ก่อน เพราะในนั้นมันจะระบุทุกอย่างแล้วนี่มันจะปีนึงแล้วหลังจากที่ตกลงยอมความกัน”
“แล้วในสัญญาก็ระบุไว้ว่า คุณลงขอโทษเมื่อไหร่ แต่นี่มันเลยมาแล้วปีนึงโก้ก็ยอม ก็ยังใจเย็น ตัวโก้เองก็เห็นแก่ค่ายหนัง เห็นแก่เขาทุกๆ อย่าง เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะให้มันกระทบกับงานของเขา แล้วมันจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ มันควรจะรีบลงหรือเปล่า คุณไม่ทำตามที่พูด โก้ก็อุตส่าห์เงียบ แต่คุณก็ยังมาลงเขียนข้อมูลบิดเบือนความจริงในหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กของพี่เออีก คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำ ตัวพี่เอเองก็เหมือนกันก็รู้กันอยู่ว่าใครทำอะไรไว้”
ที่มา: manager.co.th