ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวภายหลังการฝึกอบรม การพัฒนาขีดสมรรถนะ และความรู้ในการบริหารราชการว่า ทุกๆปีที่ผ่านมา กระทรวงไอซีทีถูกลดงบประมาณลงปีละกว่า 40% ทำให้กระทรวงฯไม่สามารถพัฒนาไอซีทีของประเทศได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สาเหตุที่กระทรวงฯถูกปรับลดงบประมาณเนื่องจาก การจัดทำแผนการดำเนินงานยังขาดความน่าสนใจ มีความเป็นไปได้น้อยและอาจจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศได้ไม่เพียงพอ จึงถูกลดความสำคัญ อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากการทำงานที่ขาดประสิทธิภาพและไม่มีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจนและมั่นคง รวมถึงยังขาดการทำประชาสัมพันธ์ จึงส่งผลให้เกิดการติดขัดในการบริหารจัดการงานบางภารกิจ
“ทุกๆ ปีกระทรวงจะได้รับงบประมาณประมาณ 3 พันล้านบาท และจะถูกตัดงบประมาณทุกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาการนำเสนอผลงานในการชี้แจงงบประมาณยังไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นเราจึงต้องมีการอบรมและฝึกทักษะการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และจะต้องร่วมมือกันทุกๆ หน่วยงานให้เป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน” รมว.ไอซีที กล่าว
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงฯต้องเร่งพัฒนาระบบการทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในกระทรวงไอซีที ด้วยการจัดฝึกอบรมดังกล่าว เพื่อให้มีแนวการปฏิบัติงานในกระทรวงไอซีทีมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของการจัดอบรมครั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของข้าราชและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงทุกคน ให้มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการทำประชาสัมพันธ์กระทรวงฯ สร้างภาพลักษณ์ให้เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ รวมถึงเผยแพร่ศักยภาพและผลงานที่เป็นองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน สังคมและระดับประเทศ เช่น กระทรวงไอซีทีเตรียมที่จะจัดตั้งองค์กรอวกาศในประเทศไทย การส่งดาวเทียม SMMS ร่วมกับประเทศจีน เพื่อสำรวจทรัพยากรธรรมชาติและเฝ้าระวังภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทย และองค์กรพิพิธภัณฑ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่จัดแสดงความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยาไว้อย่างครบครัน ให้ประชาชนได้รับและใช้ประโยชน์จากหน่วยงานดังกล่าว
รมว.ไอซีที กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการจัดการเว็บไซต์ที่เข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯและเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ผ่านศูนย์ปฏิบัติการ ISOC ว่า ขณะนี้ศูนย์ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ประจำการที่มาจาก กองปราบปรามคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ทหารบก และทหารอากาศ มาร่วมเฝ้าระวังเว็บไซต์ไม่เหมาะสมตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อทำงานครบ 1 สัปดาห์ จะสรุปรายงานผลต่อสำนักพระราชวังว่า ความเคลื่อนไหวเว็บไซต์ไม่เหมาะสมใน 1 สัปดาห์เป็นอย่างไร และจะนำผลสรุปเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ส่งฟ้องศาลให้สั่งปิดเว็บไซต์ต่อไป
ด้านนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการประมูลโครงการ จัดทำระบบเชื่อมโยงเคเบิลใยแก้ว (Automatically Switched Optical Network : ASON) หรือโครงการเอซอน ภายในประเทศจำนวน 5 พื้นที่ มูลค่า 2,618.47 ล้านบาท ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออคชั่น) ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาน) หรือ CAT และได้ยืดเวลามาอีก 1 เดือน ให้ได้ผลตรวจสอบภายในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ว่า ขณะนี้ ได้เรียกคณะกรรมการตรวจสอบการประมูลราคา คณะทำงาน และคณะอนุกรรมการทั้ง 8 คน มาชี้แจงแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน และอาจจะต้องขอเลื่อนเวลาออกไปอีก
ที่มา: thairath.co.th
