“อุ่น” ยืดอกรับเคยนุ่งกางเกงในตัวเดียวโชว์เสียวจนของสงวนเกือบแพมในแคมฟ็อก เผยรู้สึกเสียใจทำไปเพราะว่ายังเป็นเด็กจึงไม่คิดหน้าคิดหลัง โล่งใจครอบครัวไม่ตำหนิ วอนกรณีตนเป็นอุทาหรณ์สอนใจวัยรุ่นเล่นอินเตอร์เน็ตอย่างมีขอบเขต ยันไม่คิดดำเนินคดีคนปล่อยคลิปและไม่คิดอาฆาตแค้น บอกเข็ดเลิกเล่นแคมฟ็อกถาวร
เป็นอีกหนึ่งคนที่เจอคลิปฉาวสกัดดาวรุ่งสำหรับหนุ่ม “อุ่น จักรกฤษณ์ อินทนา” ผู้เข้าแข่งขันการประกวดร้องเพลงเวทีเคพีเอ็นอวอร์ดฯ ครั้งที่ 20 ที่เจอพิษคลิปฉาวว่อนอินเตอร์หลังจากเป็นที่รู้จักในการเข้าประกวด โดยในคลิปนั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาละม้ายคล้ายหนุ่มอุ่นนุ่งกางเกงในสำหรับผู้ชายสีขาว เต้นยักย้ายส่ายสะโพกใช้มือลูบคลำตัวเอง แถมยังถลกกางเกงลงต่ำจนเห็นเกือบเห็นของสงวนแพลมออกมา โดยว่ากันว่าคลิปดังกล่าวเป็นลีลาการโชว์แคมฟ็อกของหนุ่มอุ่นเมื่อ 5 ปีขณะที่อายุ 16 ปี งานนี้เจ้าตัวก็ได้ออกโรงชี้แจงพร้อมยอมรับว่าคลิปดังกล่าวเป็นของตนจริง ซึ่งทำไปเพราะความคึกคะนอง
“เห็นภาพแล้วก็รู้สึกเสียใจและก็ช็อคพอสมควรแต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ สิ่งที่มันเกิดขึ้นตอนนั้นมันเป็นช่วงที่ผมอยู่ในวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่คะนอง ทำไปโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ดี กับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนแรกก็กลัวว่าทางบ้านจะว่า และกลัวว่าเขาจะรับไม่ได้ แล้วก็มีผลกระทบอะไรหรือเปล่า แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะท่านก็เลี้ยงผมมาท่านรู้จักผมดี เห็นพัฒนาการมาตลอดว่าช่วงชีวิตผมเป็นยังไงบ้าง”
“คือคุณแม่ท่านคิดไว้ก่อนหน้าแล้ว(หัวเราะ) สักวันหนึ่งถ้ามีคนไม่หวังดีเขาก็เลยเอาออกมาปล่อย พ่อก็บอกว่าอดีตพ่อไม่สนใจพ่อเอาปัจจุบัน สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ตอนแรกก็รู้สึกเสียใจนะครับ รู้สึกช็อกและเหวอไปเหมือนกัน แต่ว่ามันก็เป็นความจริงไงครับ คนเรามันก็มีสิทธิ์จะคิดมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์กันได้ก็ไม่ว่ากัน”
“สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากขอโทษไปยังแฟนๆ และทุกๆคนที่เชียร์ผม อยากจะให้วัยรุ่นและเยาวชนที่ชอบเล่นอินเตอร์เน็ตก็ให้ดูผมไว้เป็นตัวอย่าง ดูไว้เป็นอุทาหรณ์ให้รู้ว่าเล่นอินเตอร์เน็ตได้แต่ควรจะมีขอบเขตก็อยากจะฝากไว้แล้วก็อยากจะขอโทษทุกๆ คน ขอโทษจริงๆ ครับ(ยกมือไหว้)”
รับเข็ดเลิกเล่นแคมฟ็อกถาวร ลั่นไม่คิดแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยคลิปและไม่คิดอาฆาตแค้น เชื่อถ้าปัจจุบันตนทำดีก็สามารถลบล้างอดีตได้
“เข็ดแล้วครับกับการถ่ายคลิป ตอนนี้ไม่เล่นแล้วครับแคมฟ็อก เลิกเล่นแล้วครับไมได้เล่นอีกเลย ส่วนคนที่เอาคลิปนั้นมาเผยแพร่จะดำเนินคดีไหมก็คิดว่าคงไม่แจ้ง ก็คงให้มันจบๆ ไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนปล่อยตัวผมเองก็ไม่คิดอยากจะรู้ด้วย จะเป็นคนใกล้ตัวหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน เลือกที่จะไม่อยากรู้ดีกว่า สำหรับคนปล่อยผมก็คงไม่คิดจะไปว่าอะไรเขา ไม่รู้สึกอาฆาตแค้นอะไร”
“เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ผมย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่ผมมั่นใจว่าปัจจุบันนี้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ทุกวันนี้ผมมีชีวิตที่แตกต่างจากวันนั้นมากๆ ผมเชื่อครับว่าอดีตมันส่งผลมาสู่ปัจจุบันก็จริง แต่ถ้าปัจจุบันเราทำดี เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ผมเชื่อว่าอนาคตต้องดีแน่ๆ พอเกิดเรื่องแฟนคลับก็ให้กำลังใจดีมากครับ ทุกครั้งที่ผมได้คุยได้เจอกับแฟนคลับมันสามารถเติมกำลังใจให้ผมได้เยอะมากครับ ทำให้ผมรู้สึกหายเหนื่อยและหายเครียด”
ที่มา: manager.co.th