"พอล" ไม่โกรธโดนเม้าท์เป็นเกย์ รอฟ้าลิขิตให้เจอแฟน

[Nick]

“พอล” เผยไม่โกรธโดนเม้าท์ว่าเป็นเกย์ บอกให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่แอบกัดบอกไปเขียนเรื่องที่มันสร้างสรรค์สังคมจะดีกว่า เผยตอนนี้ยังไร้สาวข้างกาย แต่ถ้าถึงเวลาคงมีเองเหมือนฟ้าลิขิต
       
       ห่างหายจากข่าวกับสาวๆ ไปนาน เลยมีข่าวแซวว่าพระเอกหนุ่ม “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์” แอบมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ล่าสุดถึงขั้นเม้าท์กระจายว่า ขณะไปทริปต่างจังหวัดแห่งหนึ่งก็มีการออเดอร์เด็กหนุ่มมาแซ่บถึงในห้อง พอได้เจอตัวที่งานแถลงข่าวโครงการ “สินสอดทองหมั้น แจกไม่อั้นกับสลัดโสดคอมพานี” พอลก็เผยว่า ไม่ได้ตกใจกับข่าวนี้เลย และไม่อยากตอบโต้ เพราะอยากให้เอาเวลาไปเขียนวิจารณ์ข่าวเชิงสร้างสรรค์สังคมจะดีกว่า
       
       “กับข่าวนี้ผมไม่ตกใจเลย เพราะผมเป็นคนเฉยๆ กับข่าวมากนะครับ ผมก็อยู่วงการนี้มานานนะ ผมรู้ว่าเรื่องของความตื่นเต้นมันก็ต้องมีเพื่อดึงความสนใจคน ส่วนเรื่องที่จะเขียนว่ายังไงผมว่าให้เวลาและประชาชนเป็นคนพิสูจน์ดีกว่า คือไม่มีประโยชน์ที่จะโต้กันไปมา แต่ผมว่าสิ่งที่น่าคิดคือมันเป็นการใช้สื่ออย่างถูกวิธีหรือเปล่า อย่างเช่นตอนนี้ผมก็ทำแซทเทิลไลท์ทีวีของตัวเอง ถ้าเขาเขียนมาอย่างนี้แล้วผมไปพูดในช่องผมเองโต้กันไปโต้กันมา มันเป็นวิธีที่ถูกหรือเปล่าของการใช้สื่อ”
       
       “แต่คนจะเขียนว่าเรายังไงไม่สำคัญ อย่างที่ว่าเป็นเกย์ผมยิ่งไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ถ้าเด็กกว่านี้อาจจะรู้สึกว่าทำไมมาว่าเราอย่างนี้ แต่พอนึกไปนึกมามันเหมือนเขาว่าคนเป็นเกย์ทั้งประเทศทั้งโลกเลยนะครับ แล้วถ้าเราออกมาเดือดร้อนอะไรกับการที่คนมาว่าเราเป็นเกย์แล้วเรารับไม่ได้ ก็เหมือนว่าเราก็รังเกียจคนเป็นเกย์ไปด้วย ซึ่งเรามีเพื่อนมีพี่คนที่นับถือที่เป็นเกย์ที่มีความสามารถที่เป็นคนดีเยอะแยะไป เพราะฉะนั้นอยากเขียนอะไรก็เขียนตามสบาย”
       
       “แต่ก็ถามนิดนึงแล้วกันว่าคุณใช้สื่ออย่างถูกวิธีหรือเปล่า เอาพลังนั้นมาสร้างสรรค์โลกดีกว่ามั้ย คือคุณสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างได้ เอาคอลัมน์ที่คุณเขียนซึ่งมีพื้นที่มากมายเลย ถ้าช่วยเขียนให้คนไทยรักกันหรือว่าคิดบวกจะดีกว่ามั้ยกับพลังของคุณแทนที่จะไปนั่งคิดเรื่องอะไรขึ้นมาว่าวันนี้ฉันจะเล่นใครดีวะ คนนั้นท้อง คนนี้แต่งงานโน่นนี่ ไม่รู้นะครับ คือผมก็เข้าใจว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่บุคคลมีชื่อเสียงต้องเจอ ก็เคยเจอมาบ้าง แต่เป็นคนโชคดีที่ไม่ค่อยได้เจออะไรแบบรุนแรง และสำหรับเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่รุนแรง ก็อยากจะเขียนอะไรก็เขียนไป”
       
       บอกเพื่อนที่เมืองนอกเป็นคนส่งข่าวมาให้ดู ยืนยันไม่โกรธ แต่อยากให้ผู้บริโภคสื่อไม่ควรปักใจเชื่อ และไม่ควรจะอัพเดทแต่ข่าวบันเทิงเพียงอย่างเดียว
       
       “ตอนที่รู้ข่าวก็ไม่ได้ซีเรียสเหรอ คือวันแรกที่รู้ข่าวก็มีเพื่อนส่งอีเมล์มา ซึ่งนี่ก็เป็นเพื่อนที่อยู่เมืองนอกด้วยนะ เพื่อนเป็นนักข่าวอยู่ที่เมืองนอก เขาเรียนจบด้านการเป็นสื่อโดยตรงเลย เขาก็ส่งมาให้ผม ผมก็อ่านเสร็จปุ๊บก็บอกตลกดีเนอะ แล้วก็ถามว่าส่งมาทำไมวะ คือยังไม่รู้ว่าเป็นเราด้วยซ้ำไป ก็ส่งกลับไปกลับมากันหลายรอบ แต่เพื่อนก็ไม่กล้าพูดตรงๆ ว่านี่เขาเขียนถึงแกนะโว๊ย(หัวเราะ) จนสุดท้ายเพื่อนอีกคนก็มาเล่าว่าเขามีเฉลยข้างล่างไงว่าเป็นแก เราก็เลยอ๋อเข้าใจก็แค่นั้น แต่ก็ยังถามเพื่อนกลับไปว่า แล้วตรงไหนที่คิดว่าเป็นเรา”
       
       เผยยังไม่มีหวานใจตัวจริงแบบเป็นตัวเป็นตน แต่ก็มีคนเข้ามาคุยด้วย แต่ตนยังอยากทุ่มเวลาให้กับการเรียนและทำงาน บอกถ้าจบปลายปีนี้คงมีโอกาสได้ดูเรื่องความรักอย่างจริงจังมากขึ้น
       
       “แฟนตัวจริงยังไม่มีครับ(หัวเราะ) ณ ตอนนี้ยังไม่มี แต่ก็อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์เสมอว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติามันจะมีเมื่อไหร่มันก็มีเอง ไม่ใช่ว่าเราปิดกั้นตัวเองไม่ได้อยากมีมันไม่ใช่ คือมีเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นน่ะครับ เดี๋ยวเดินออกจากนี่ไปเจอเลยก็อาจจะเป็นไปได้ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของฟ้าลิขิตเหมือนกันนะ แต่คนที่มาคุยด้วยก็มีบ้างครับ แต่ส่วนใหญ่มันก็ต้องเริ่มต้นจากการทำความรู้จักก่อน จากเป็นเพื่อนก่อน ไม่มีลักษณะแบบจะไปจู่โจมเป็นแฟนเลย คือต้องศึกษาข้อมูลกันก่อน ให้เขารู้จักเรา เรารู้จักเขา และถ้ารู้สึกมันคลิกกันได้คุยกันรู้เรื่องเข้ากันได้ก็ค่อยยกระดับไปกินข้าว ดูหนังอะไรก็ว่าไป”
       
       “แต่ตอนนี้จริงๆ ผมว่าคนที่ผมคุยด้วยก็เป็นคนดีเป็นคนเก่งทุกคนนะ เพียงแต่ว่าอาจจะด้วยงานด้วยเวลาที่มันค่อนข้างจะยุ่ง ทั้งเราเรียนด้วย ทำงานด้วยหลายๆ อย่าง มันอยู่ที่ว่าจัดลำดับความสำคัญของชีวิตครับ”


ที่มา: manager.co.th