Author Topic: “เต้” เผยรักสุดแฮปปี้ ข่าวเป็นพ่อลูก “แอนนี่” ไม่มีผลกระทบเพราะแฟนเข้าใจดี  (Read 1004 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“เต้ ปิติศักดิ์” สบายใจแฟนไม่หึงหลังจากมีข่าวเป็นพ่อของลูก “แอนนี่” เผยคบกับแฟนมา 2 ปีแล้วสุดแฮปปี้เข้ากับครอบครัวกันและกันได้ดี ยอมรับคุยเรื่องแต่งงานและมีลูก แต่บอกยังไม่ใช่เร็วๆ นี้
       
       เกือบหวิดซวยไปด้วยซะแล้ว เพราะอยู่ดีๆ ดาราหนุ่มผิวเข้ม “เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์” ก็โดนกระแสว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าเป็นพ่อของ “ด.ช.ฑีฆายุ แก้วไทรหาญ” ลูกชายของดาราสาว “แอนนี่ รุ่งนภา บรู๊ค” ซะอย่างนั้น ซึ่งดาราหนุ่มก็ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับดาราสาวแน่นอน เพราะเจ้าตัวก็มีหวานใจนอกวงการเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แถมหนุ่มเต้ยังบอกอีกว่าข่าวนี้ไม่ได้สร้างปัญหากระทบความสัมพันธ์ของตนกับแฟนสาวเลย เพราะเข้าใจกันเป็นอย่างดี
       
       “เรื่องข่าวที่ผ่านมาแฟนผมเขาก็เข้าใจครับ คือเข้าใจตลอดมาเลยล่ะครับตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นข่าว อย่างเวลาที่ผมไปทำงานที่นั่นที่นี่เจอคนนั้นคนนี้ เขาก็จะมาแซวเล่นๆ ว่าทำงานกับคนนั้นคนนี้ระวังนะ แต่ก็แซวกันสนุกๆ ครับ แต่พอเป็นข่าวขึ้นมาจริงๆ เขาก็บอกว่านั่นไงเห็นไหม แต่จะขำๆ กันมากกว่า ไม่ได้ซีเรียสอะไร เขาก็ให้กำลังใจตลอดครับ เพราะได้คุยกันตลอด ผมว่าสำหรับทุกคนเรื่องนี้สำคัญนะ เวลามีอะไรที่เราติดใจหรือรู้สึกสงสัยอะไรให้คุยให้ถามกันก่อนเลย หรือจะคุยกันในมุมสนุกๆ กันก่อนก็ได้ ไม่ต้องจับเข่าคุยกันแบบซีเรียสๆ มันจะพากันพังไปหมด”
       
       “เรื่องข่าวนี้เขาเข้าใจครับ แล้วผมก็แค่ไปทำงาน(หัวเราะ) ก็เลยไม่รู้จะพูดกับเขายังไง เขาก็เข้าใจ แต่ผมก็เพิ่งมารู้สึกเหมือนกันว่าเราโหนกระแสไปหรือเปล่า(หัวเราะ) ผมก็อยู่ทำงานของผมปกติ แต่ด้วยเรื่องนี้มันเป็นอะไรที่คนอยากรู้อยากเอาใจช่วย มันจะเป็นยังไงก็เป็น เพราะเรารู้อยู่ว่าเราทำอะไร แต่ก็ยังมีโดนแซวครับ เจอเพื่อนแต่ละคนก็จะบอกว่าอ้าวไม่ไปดูลูกบ้างเหรอ ผมก็บอกว่าเดี๋ยวจะแวะไปดูแลบ้าง(หัวเราะ) ก็มีขำๆ กันไป แต่ไม่ค่อยแซวว่าหน้าเหมือนผมนะครับ เพราะเขาเห็นตัวขาวๆ ก็ผิดสีแล้ว(หัวเราะ) แต่เรื่องนี้ที่บ้านผมไม่ได้พูดถึงเลยครับ เขาก็คงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยิ้มๆ ขำๆ กันไปเหมือนเดิม”
       
       บอกไม่ซีเรียสมีหนังสือบางเล่มหาว่าตนควงสาวอื่น แต่เพราะหวานใจเป็นคนชอบเปลี่ยนบุคลิกตัวเองบ่อยเลยทำให้เข้าใจผิด แต่คบกันมาอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด เข้ากับสองครอบครัวได้ดี
       
       “ความรักก็ดีครับยังเป็นคนเดิม แต่ผมเห็นจากหนังสือหลายๆ เล่มเขาจะเข้าใจผิดว่าผมไปควงคนนั้นทีคนนี้ที แต่จริงๆ แล้วคนที่ผมคบๆ กันอยู่เขาชอบเปลี่ยนบุคลิก เดี๋ยวก็ผมยาว เดี๋ยวก็ผูกผม เดี๋ยวก็ใส่แซ็ก เดี๋ยวก็ใส่ขาสั้นหลายบุคลิกมาก บางทีก็ใส่แว่น แต่ก็ยังคนเดียวคนเดิมอยู่เหมือนเดิม แต่มีข่าวอย่างนี้ทั้งผมและเขาก็สนุกดีครับ ไม่ได้ซีเรียสอะไร”
       
       “คบกันมา 2 ปีเศษๆ แล้วครับ เรื่องข่าวดีอันนี้ถามผมคนเดียวไม่ได้นะ เพราะว่าสำคัญที่สุดมันต้องอยู่ที่ความรู้สึกของคนสองคนที่มาคู่กัน ผมว่าระยะเวลามันคงบอกเองแหละครับว่าเมื่อไหร่ แต่ผมเองก็เป็นคนนึงที่อยากจะมีครอบครัวมีลูก เพราะผมชอบเด็กๆ อยากจะมีครอบครัวเหมือนกับคนอื่นๆ เหมือนกัน ก็คงสักวันแหละครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้นครับ ขอให้มันโป๊ะกับสักคนนึงก่อนแล้วกัน ให้มันชัวร์ๆ แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที เพราะว่าก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร แต่มันก็มีความตั้งใจอยู่”
       
       “จริงๆ อนาคตส่วนตัวที่วางไว้ก็สักประมาณ 30 กลางๆ ค่อยว่ากันอีกที ก็ยังอีกสักพักใหญ่ๆ ครับ ต้องทำงานเก็บตังค์ก่อนล่ะ แต่จริงๆ ผมกับแฟนก็ชอบคุยกันเรื่องนี้นะ คือเวลาผมคบกับใครผมก็ไม่อยากคบแล้วเลิกๆ ผมก็จะชอบคุยว่าถ้าเกิดโตไปก็อยากมีลูกชื่อนั้นชื่อนี้ ก็มีคุยกันเล่นๆ บ้างครับ แต่ยังไม่ได้จริงจังถึงขั้นนั้น กับครอบครัวก็มีได้ไปเจอกันบ้างครับ เพราะว่าเวลาผมคบใครผู้ใหญ่จะรู้เรื่องทุกคนและจะรู้ความเป็นไปของเรา คบกันยังไง ศึกษากันยังไง เลิกกันเพราะอะไรเป็นเพราะอะไรเขาจะรู้หมด”
       
       “ผมกับที่บ้านเขาก็ดีนะครับ ไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลย แต่ก็จะพยายามทำคะแนนไปเรื่อยๆ ครับ(หัวเราะ) ส่วนเขากับที่บ้านผมก็คงคะแนนพอๆ กันมั้งครับ เป็นเพราะว่าเราโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยครับ เราก็รู้ว่าเราควรจะทำอะไรที่มันชัดเจนขึ้น เมื่อก่อนเป็นเด็กๆ บางทีทำอะไรไม่ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ บางทีเขาก็อาจจะไม่เข้าใจเราบ้าง บางทีไปเที่ยวกันเวลาไปไหนมาไหนเขาก็จะรู้สึกว่าทำไมไปเที่ยวกันบ่อยจัง แต่ว่าพอโตขึ้นเราได้คุยกับทั้งครอบครัวของเขาแล้วก็ครอบครัวของเราคือควรรู้ความเป็นไปของเราทั้งหมด อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอดครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)