Author Topic: Apple ยัน iOS 7 ไม่เสี่ยงถูกสะกดรอย  (Read 1798 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


     หลังจากสื่อมวลชนจีนเผยแพร่รายงานวิชาการว่าระบบปฏิบัติการปัจจุบันของแอปเปิล (Apple) อย่าง iOS 7 มีโอกาสทำให้ผู้ใช้ถูกสะกดรอย จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั่วสังคมมังกร ล่าสุด แอปเปิลตัดสินใจออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่าเนื้อหารายงานที่สื่อจีนเผยแพร่นั้นไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์เพื่อให้ชาวจีนมั่นใจว่าอุปกรณ์ iOS 7 ไม่มีปัญหาความปลอดภัยที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติแน่นอน
       
       แอปเปิล ประกาศแถลงการณ์ไว้ที่หน้าเว็บไซต์ภาษาจีนของตัวเองเมื่อวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื้อหาทั้งหมดย้ำว่าแอปเปิลต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชาวจีนเข้าใจขอบเขตการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะกรณีการจัดการข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งจะไม่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างที่รายงานจากสถานีโทรทัศน์ CCTV แห่งชาติจีนเผยแพร่ในช่วงก่อนหน้านี้
       
       แอปเปิล ระบุ ในแถลงการณ์ว่ายินดีที่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติจีน CCTV มีความพยายามให้ความรู้กับผู้ใช้ในประเด็นที่แอปเปิลมองว่ามีความสำคัญมาก แต่บริษัทต้องการสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าทุกคนในประเทศจีนจะเข้าใจชัดเจนถึงสิ่งที่แอปเปิลทำ และไม่ได้ทำกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ จุดนี้แอปเปิลยืนยันเช่นเดียวกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ ว่าบริษัทไม่เคยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐจากประเทศใดในการสร้างแบคดอร์ (backdoor) หรือระบบประตูหลังขึ้นที่บริการในเครือของแอปเปิลเลย
       
       ระบบประตูหลังเป็นชื่อเรียกช่องโหว่ที่นักโจรกรรมข้อมูลสามารถเจาะระบบ เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ทุกคน ซึ่งไม่เพียงแบคดอร์ แอปเปิลยังยืนยันว่าไม่เคยอนุญาตให้ใครเข้าถึงข้อมูลในเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท และจะไม่มีการอนุญาตใดๆในอนาคตแน่นอน
       
       การชี้แจงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อหม่า ติง (Ma Ding) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตของจีนหรือ Institute for Security of the Internet แห่งมหาวิทยาลัยความปลอดภัยสาธารณรัฐประชาชน (People's Public Security University) ในกรุงปักกิ่งให้สัมภาษณ์กับ CCTV เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าคุณสมบัติ frequent locations ในระบบปฏิบัติการ iOS 7 นั้นมีความเสี่ยงเป็นภัยต่อผู้ใช้เพราะอาจทำให้เกิดการสะกดรอยตามในอนาคต รวมถึงอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของจีนด้วย
       
       นักวิชาการจีนเชื่อว่าคุณสมบัติ frequent locations ใน iOS 7 จะทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถติดตามตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้ในแต่ละช่วงเวลาได้ง่าย เนื่องจากผู้ใช้สามารถเผยข้อมูลสถานที่ยอดฮิตที่นิยมเดินทางไปบ่อยครั้งได้อย่างต่อเนื่อง คุณสมบัตินี้เปิดให้ผู้ใช้ iOS 7 บนไอโฟนรุ่นปัจจุบันที่วางจำหน่ายเมื่อกันยายนปีที่แล้วได้ใช้งานอย่างเสรี และมีการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตั้งค่าเปิดหรือปิดคุณสมบัตินี้ได้ตามใจชอบ
       
       ทั้งหมดนี้แอปเปิลปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าบริการเชิงภูมิศาสตร์หรือ GPS geolocation service ในไอโฟนทุกบริการนั้นถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ เช่น การช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้ที่สุด การตรวจสอบสภาพอากาศ หรือการคำนวณระยะเวลาเดินทางตามเส้นทางที่ต้องการ ซึ่งทั้งหมดนี้แอปเปิลยืนยันว่าข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากขั้นตอนการให้บริการ จะไม่มีการส่งหรือโอนถ่ายข้อมูลไปที่ใด เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์หรือที่ตัวผู้ใช้เอง
       
       แม้แอปเปิลจะระบุว่าผู้ใช้สามารถปิดบริการด้าน GPS ของไอโฟนได้ตามต้องการ แต่นักวิชาการจีนได้สาธิตให้เห็นว่าผู้ใช้สามารถถูกตามรอยด้วยซอฟต์แวร์อื่น ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
       
       นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอปเปิลถูกทางการจีนตั้งข้อสังเกตในผลิตภัณฑ์ แถมแอปเปิลยังถูกตัดสินให้แพ้คดีละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีวิเคราะห์เสียงในระบบผู้ช่วยส่วนตัวบนไอโฟนอย่าง Siri เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแอปเปิลจะพร้อมยอมทำทุกอย่างและไม่ถอดใจโบกมือลาตลาดจีน เนื่องจากสินค้าของแอปเปิลสามารถทำเงินได้มหาศาลในแดนมังกร และไอโฟนก็ทวีความนิยมมากขึ้นท่ามกลางสินค้าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ที่ครองตลาดจีนอยู่

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2012 Views
Last post December 26, 2009, 09:03:26 AM
by IT
0 Replies
1980 Views
Last post January 20, 2010, 10:05:06 AM
by Nick
0 Replies
2017 Views
Last post January 20, 2010, 10:37:39 AM
by Nick
0 Replies
1981 Views
Last post January 21, 2010, 11:17:31 AM
by Nick
0 Replies
2118 Views
Last post January 27, 2010, 08:55:49 AM
by Nick
0 Replies
2303 Views
Last post January 29, 2010, 10:27:48 AM
by Nick
0 Replies
2941 Views
Last post January 29, 2010, 10:28:19 AM
by Nick
0 Replies
3503 Views
Last post June 16, 2010, 01:00:19 PM
by Nick
0 Replies
3236 Views
Last post January 15, 2012, 08:57:45 AM
by Nick
0 Replies
2861 Views
Last post December 31, 2012, 01:49:03 PM
by Nick